สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) หลังจากบริษัทเอกชนแห่ปลดพนักงาน ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะส่งผลให้ความต้องการพลังงานทรุดตัวลงด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดลบ 74 เซนต์ ปิดที่ 45.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดบวก 2 เซนต์ แตะที่ 1.1765 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้ง ออยล์ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลงสู่ระดับ 1.4470 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวลง 82 เซนต์ ปิดที่ 47.55 ดอลลาร์/แกลลอน
ไมเคิล ลินช์ นักวิเคราะห์จากบริษัท สตราเทจิก เอนเนอร์จี แอนด์ อิโคโนมิค รีเสิร์ช กล่าวว่า นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบหลังจากผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยสมาคมธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NABE) บ่งชี้ว่า นักวิเคราะห์ 39% คาดการณ์ว่าบริษัทเอกชนทั่วโลกจะลดการจ้างงานลงอีกในอีก 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งนับเป็นอีกปีหนึ่งที่พนักงานภาคเอกชนต้องเผชิญภาวะวิกฤติ โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 32% ที่ได้มีการสำรวจไว้ก่อนหน้านี้
ซารา จอห์นสัน หัวหน้านักวิเคราะห์ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการสำรวจให้กับ NABE และเป็นนักวิคราะห์ของไอเอชเอส โกลบอล อินไซท์กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2550 นั้น คาดว่าจะลุกลามต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้และจะส่งผลให้ตัวเลขว่างงานพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง โดยก่อนหน้านี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขจ้างงานประจำเดือนธ.ค.ปี 2551 ที่ร่วงลง 524,000 ตำแหน่ง ทำให้ตัวเลขว่างงานโดยรวมตลอดปี 2551 พุ่งขึ้นเป็น 2.6 ล้านตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี
สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NBER) ยอมรับว่า เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีพ.ศ.2550 และคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญช่วงขาลงไปจนถึงกลางปีพ.ศ.2552 ซึ่งนับเป็นภาวะถดถอยที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่สหรัฐเผชิญวิกฤตการณ์เศรษฐกิจในช่วงปีพ.ศ.2524-2525
บริษัท ปิโตรลอจิกส์ เปิดเผยว่ากลุ่มประเทศโอเปคลดการผลิตลง 5.4% ในเดือนนี้มาอยู่ที่ 26.15 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่บริษัท โคโนโคฟิลิปส์เปิดเผยว่าบริษัทจะปิดหน่วยผลิต fluid catalytic cracker ที่เมืองสวีนีย์ รัฐเท็กซัส และมีแผนปิดโรงกลั่น เพื่อซ่อมบำรุงระบบควบคุมมลพิษของเครื่องลดสารพิษในท่อไอเสียที่เมืองบอร์เจอร์ รัฐเท็กซัส นอกจากนี้ บีพี บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของยุโรปได้ปิดการเดินเครื่องผลิตน้ำมัน 75,000 บาร์เรลต่อวันในรัฐอินเดียน่า และยังไม่มีแผนการเปิดโรงกลั่นในขณะนี้
นักลงทุนจับตาดูข่าวที่ว่าประธานกลุ่มโอเปคอาจจัดประชุมก่อนเดือนมี.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 800,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล