สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 900 ดอลลาร์/ออนซ์เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร นอกจากนี้ ภาวะผันผวนในตลาดหุ้นและตลาดเงินยังกระตุ้นนักลงทุนให้ย้ายฐานเข้าเทรดในตลาดทองคำอย่างคับคั่ง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 908.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 13.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 889.00-916.30 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินเดือนมี.ค.ปิดที่ 12.110 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 17.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 11.45 เซนต์ ปิดที่ 1.5865 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมเดือนเม.ย.ปิดที่ 973.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 15.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนมี.ค.ปิดที่ 193.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 4.10 ดอลลาร์
นักลงทุนแห่เข้าซื้อขายในตลาดทองคำอย่างหนาแน่น เนื่องจากภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากบริษัท แคทเทอร์ พิลลาร์ เปิดเผยผลประกอบการที่ทรุดตัวลงในไตรมาส 4 ซึ่งอาจทำให้บริษัทต้องลดพนักงาน 25,000 ตำแหน่งในสหรัฐและลดเงินเดือนผู้บริหาร ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวฉุดหุ้นแคทเทอร์ พิลลาร์ ร่วงลงกว่า 8%
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์ เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่เฟดจะเปิดเผยผลการประชุมในคืนวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (Fed Fund Rate) ไว้ที่ช่วง 0-0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังอยู่ในภาวะถดถอย