อับดุลเลาะห์ อัล-บาดรี เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) เรียกร้องให้ทางการสหรัฐควบคุมการเก็งกำไรน้ำมันของกลุ่มเฮดจ์ฟันด์และนักเก็งกำไรที่เป็นสาเหตุให้ราคาน้ำมันผันผวนอย่างรุนแรงเมื่อปีที่แล้ว พร้อมกล่าวว่าโอเปคจะกำหนดข้อบังคับเพื่อควบคุมการเก็งกำไรของกลุ่มนักลงทุนที่เข้าซื้อน้ำมันโดยไม่มีแผนที่จะใช้น้ำมัน
"โอเปคเล็งเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่เราควรจะลดกระแสการเก็งกำไรในตลาด การกำหนดข้อบังคับครั้งนี้จะทำให้เรารู้ได้ทันทีว่าใครเข้ามาขายหรือซื้อสัญญาน้ำมันในตลาดล่วงหน้า ในช่วงกลางปีที่แล้วสัญญาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ราคาทรุดตัวลงอย่างหนักจนถึงปลายปีเนื่องจากการเก็งกำไร ซึ่งเป็นเหตุให้โอเปคต้องลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่" อัล-บาดรีกล่าว
ทั้งนี้ เอล-บาดรีกล่าวว่า โอเปคจะหยิบยกเรื่องการใช้มาตรการเพิ่มความโปร่งใสในตลาดน้ำมันขึ้นมาพูดคุยในที่ประชุมเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และจะหารือเรื่องยุทธศาสตร์การลงทุนในระยะยาว
ขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐเสนอให้บังคับใช้กฎหมายควบคุมการเก็งกำไรเนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่สูงขึ้นส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นแตะระดับ 4 ดอลลาร์/แกลลอนเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการกำกับดูแลการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดล่วงหน้าของสหรัฐ (CFTC) กลับมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องบทบาทของกลุ่มเฮดจ์ฟันด์ที่เป็นเหตุให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อปีที่แล้ว
วอลเตอร์ ลัคเคน ประธาน CFTC กล่าวว่า CFTC ดำเนินการตรวจสอบราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ที่พุ่งขึ้นรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ว่า มีการ "ปั่นราคา" ในตลาดหรือไม่ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะไม่มีนักลงทุนฉวยโอกาสในช่วงที่สถานการณ์ในตลาดการเงินยังผันผวน ทำการปั่นราคาน้ำมันให้สูงขึ้น โดยการตรวจสอบครั้งนี้ครอบคลุมถึงการพฤติกรรมการทุ่มซื้อสัญญาน้ำมัน, การส่งมอบ, การกักตุน และการค้าน้ำมันทั่วประเทศที่บิดเบือนไปจากสถานการณ์ความเป็นจริง
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับความจำเป็นในการควบคุมการซื้อขายในตลาดน้ำมันล่วงหน้า สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน