สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกในตลาดสิงคโปร์ช่วงเที่ยงวันนี้ขยับขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 42 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความหวังที่ว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยสกัดกั้นภาวะชะลอตัวและกระตุ้นอุปสงค์น้ำมันให้ดีขึ้นได้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ในการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์ช่วงเที่ยงวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ แตะระดับ 42.08 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยเมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันดิ่งลง 4.15 ดอลลาร์ปิดที่ 41.58 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้าน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ทรุดตัวลง รวมถึงการปลดพนักงานที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ หลายฝ่ายคาดว่า วุฒิสภาจะลงมติรับรองมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 8.25 แสนล้านดอลลาร์ที่ผู้สนับสนุนคาดว่าจะสามารถสร้างตำแหน่งงานได้ 4 ล้านตำแหน่ง ซึ่งมาตรการดังกล่าวนั้นประกอบด้วย การใช้จ่ายเงิน 5.50 แสนล้านดอลลาร์และปรับลดภาษี 2.75 แสนล้านดอลลาร์ ส่งให้นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐลงนามบังคับใช้เป็นกฏหมายในช่วงกลางเดือนก.พ.
ด้านธนาคารกลางยุโรปและเอเชียต่างเร่งออกนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายพร้อมทั้งปรับลดดอกเบี้ย ในยามที่เศรษฐกิจตกต่ำจนส่งผลให้มีการปรับลดการจ้างงานและฉุดรั้งความต้องการผู้บริโภค
วิคเตอร์ ชุม นักวิเคราะห์จาก Purvin & Gertz เปิดเผยว่า "ตลาดคาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับนี้จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและจะช่วยยับยั้งวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยไม่ให้ถลำลึกลงไปกว่าที่เป็นอยู่"
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการรายงานน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของกระทรวงพลังงานที่จะเปิดเผยในคืนนี้ซึ่งจะบ่งชี้ถึงวิกฤตอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐ ซึ่งคาดกันว่า สต็อกน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรล หลังจากที่ 3 สัปดาห์ก่อนสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 14 ล้านบาร์เรล และคาดว่าสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล