ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดร่วง 72 เซนต์ เหตุวิตกศก.ถดถอยฉุดดีมานด์พลังงาน

ข่าวต่างประเทศ Friday January 30, 2009 06:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะทำให้ความต้องการพลังงานทั้งจากภาคเอกชนและผู้บริษัท ทรุดตัวลงด้วย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 72 เซนต์ ปิดที่ 41.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 4.74 เซนต์ ปิดที่ 1.2309 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนมี.ค.ลดลงแตะระดับ 1.4215 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 43 เซนต์ ปิดที่ 45.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทอม โคลซา นักวิเคราะห์จากออยล์ ไพร์ซ อินฟอร์เมชั่น เซอร์วิส กล่าวว่า "นักลงทุนวิตกกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจในขณะนี้และคาดว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั้งจากทั่วโลกและในสหรัฐ จะฉุดรั้งดีมานด์พลังงานร่วงลงด้วย นอกจากนี้ กระแสเลย์ออฟพนักงานยิ่งทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมถึงการใช้จ่ายด้านพลังงาน"

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ขอเข้ารับสวัสดิการระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 17 ม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.78 ล้านคน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อบ้านใหม่เดือนธ.ค.ร่วงลง 14.7% เหลือเพียง 331,000 ยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยในคืนนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจีดีพีของสหรัฐจะหดตัวลง 5.4%

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวได้เพียง 0.5% ในปีนี้ ซึ่งนับเป็นอัตราการขยายตัวในระดับที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากวิกฤตการเงินที่บานปลายอาจทำให้ธนาคารทั่วโลกมีตัวเลขขาดทุนสูงถึง 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ไอเอ็มเอฟระบุว่า "แม้ว่าหลายประเทศจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบด้าน แต่วิกฤตการเงินยังคงสร้างทวีความรุนแรงและฉุดรั้งความเคลื่อนไหวในระบบเศรษฐกิจ ดังนั้นการที่จะได้เห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นได้อย่างยั่งยืนจึงไม่น่าจะเป็นไปได้จนกว่ากลไกในภาคการเงินจะฟื้นตัวและปัญหาในตลาดสินเชื่อจะคลี่คลายลง

นักลงทุนจับตาดูคนงานที่โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่ง รวมถึง เอ็กซอนโมบิล, วาเลโร และรอยัล ดัทช์ เชลล์ ราว 30,000 คน ประท้วงนัดหยุดงาน ซึ่งอาจงผลให้กำลังการกลั่นน้ำมันในสหรัฐลดลงด้วย

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลต่อสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 23 ม.ค.พุ่งขึ้น 6.2 ล้านบาร์เรล แตะที่ 338.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลให้ความต้องการพลังงานลดลงอย่างหนัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ