สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลจีดีพีที่ดีกว่าคาดการณ์ ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) เตือนว่าจะลดกำลังการผลิตเพิ่ม
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ ปิดที่ 41.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 3.8 ปิดที่ 1.2689 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2.55 เซนต์ ปิดที่ 1.4538 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 45.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
วานนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้รายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) หดตัว 3.8% ในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค. ซึ่งดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์กันไว้ว่าจะหดตัว 5.4% อย่างไรด็ตาม ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจหดตัวเร็วยิ่งขึ้นในปีนี้
ด้านโอเปค ซึ่งมีมติในปีที่แล้วว่าจะลดการผลิตลง 4.2 ล้านบาร์เรล/วัน ได้ออกมาเตือนในสัปดาห์นี้ว่าทางกลุ่มอาจลดกำลังการผลิตลงอีก โดยอับดัลลา ซาเลม เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปค กล่าวระหว่างการประชุมเศรษฐกิจโลกว่า โอเปคพร้อมลดกำลังการผลิตอีกหากราคาน้ำมันไม่ดีดตัวขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์หลังจากนี้ ซึ่งราคาน้ำมันที่กลุ่มโอเปครับได้ต้องอยู่เหนือระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
จีน แมคกิลเลียน นักวิเคราะห์จากแทรดิชั่น เอนเนอร์จี กล่าวว่า ทุกคนกำลังจับตาดูว่าโอเปคจะทำอะไร โอเปคจะหยุดลดการผลิตเมื่อไหร่ และผลผลิตน้ำมันที่ลดลงจะเริ่มส่งผลต่ออุปทานน้ำมันโลกเมื่อใด
ด้านสตีเฟน ชอร์ก นักวิเคราะห์และเทรดเดอร์ กล่าวว่า อุปทานน้ำมันจะเพิ่มขึ้นเมื่อฤดูหนาวสิ้นสุดลง เขาเชื่อว่าอุปสงค์น้ำมันกำลังจะปรับตัวลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เนื่องจากประชาชนจะขับขี่รถน้อยลง ผู้ผลิตลดการผลิต และแม้แต่บริษัทน้ำมันก็อาจระงับการกลั่นเพื่อปิดโรงกลั่นเพื่อซ่อมบำรุงประจำปี
ทั้งนี้ บริษัทน้ำมันเริ่มทยอยรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งก็เป็นไปตามคาดว่ากำไรไตรมาสสี่จะร่วงลงหนัก และแย่ยิ่งกว่า เมื่อโรยัล ดัตช์ เชลล์ บริษัทน้ำมันรายใหญ่สุดของยุโรป รายงานผลประกอบการขาดทุน 2.81 พันล้านดอลลาร์
ด้านเอ็กซอน โมบิล และ เชฟรอน บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐ มีกำไรลดลงเช่นกัน แต่ก็ยังนับว่าดีเกินคาด โดยเอ็กซอนเผยว่ามีกำไรร่วงลง 33% ในไตรมาสสี่ ด้านเชฟรอนเผยรายได้ 4.9 พันล้านในไตรมาสสี่ ร่วงลง 26% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน