ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดร่วง $1.60 เหตุนักลงทุนวิตกกระแสเลย์ออฟ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday February 3, 2009 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 4% เมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่และภาคเอกชนประกาศปลดพนักงานเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งรวมถึงบริษัท เมซี ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าจะทำให้ความต้องการพลังงานทรุดตัวลงด้วย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.ดิ่งลง 1.60 ดอลลาร์ หรือ 3.84% ปิดที่ 40.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 9.16 เซนต์ ปิดที่ 1.3424 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 11.95 เซนต์ ปิดที่ 1.1492 ดอลลาร์ต่อแกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 2.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 43.77-46.56 ดอลลาร์

นักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบหลังจากบริษัทสหรัฐหลายแห่งประกาศปลดพนักงาน รวมถึงบริษัท เมซี ซึ่งทำธุรกิจห้างสรรพสินค้า ที่ตัดสินใจปลดพนักงาน 7,000 คน หรือคิดเป็น 4% ของตัวเลขจ้างงานโดยรวม ซึ่งการเปิดเผยครั้งนี้มีขึ้นไม่ถึงเดือนหลังจากบริษัทตัดสินใจปิดสาขา 11 แห่ง

ช็อปเปอร์แทร็ค อาร์ซีที ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยผู้บริโภคที่มีชื่อเสียงของสหรัฐเปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคลดจับจ่ายใช้สอยเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและการเลย์ออฟพนักงานของบริษัทเอกชนทำให้ตัวเลขว่างงานพุ่งสูงขึ้น โดยผู้บริโภคยังประหยัดการใช้จ่ายแม้ห้างร้านจำนวนมากพากันกระหน่ำลดราคาสินค้า โดยเฉพาะห้างเมซี อิงค์ และห้างแซคส์ ลดราคาสินค้าถึง 70% แต่ก็ไม่สามารถดึงดูดลูกค้าได้ตามเป้า ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้อาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อธุรกิจค้าปลีกในสหรัฐ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่ารายได้ส่วนบุคคลลดลง 0.2% ในเดือนธ.ค. หลังลดลง 0.4% ในเดือนพ.ย.และการใช้จ่ายส่วนบุคคลลดลง 1.0% ในเดือนธ.ค. หลังลดลง 0.8% ในเดือนพ.ย. ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างร่วงลง 1.4% ในเดือนธ.ค.ซึ่งลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปี 2551 เหลือเพียง 1.05 ล้านล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกเดือนม.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศูกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าอัตราว่างงานเดือนม.ค.ในสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี และคาดว่าตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.จะร่วงลง 530,000 ตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นการร่วงลงติดต่อกันยาวนานถึง 13 เดือน เนื่องจากยอดขายที่ตกต่ำลงส่งผลให้บริษัทเอกชนแห่ลดการจ้างงาน

กระทรวงพลังงานสหรัฐะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ