สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับวุฒิสภาสหรัฐที่สนับสนุนแผนฟื้นฟูทางเลือกใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและตัวเลขการซื้อขายที่พุ่งขึ้นเกินคาดในสหรัฐ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจ นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้น้ำหนักกับกระแสคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มโอเปคจะลดกำลังการผลิตลงอีก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 40.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.78 เซนต์ ปิดที่ 1.1670 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 1.7 เซนต์ ปิดที่ 1.3254 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 26 เซนต์ ปิดที่ 44.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
เอดิสัน อาร์มสตรอง นักวิเคราะห์จากเทรดดิชั่น เอนเนอร์จี กล่าวว่า นักลงทุนขานรับข้อมูลจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติที่ระบุว่า ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) พุ่งขึ้น 6.3% ในเดือนธ.ค. แตะที่ 87.7 ยูนิต ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค. และสะท้อนให้เห็นว่าผู้ซื้อได้กลับเข้าตลาดเพื่อฉวยประโยชน์จากราคาบ้านและอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่ในระดับต่ำ
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังคึกคักขึ้นเมื่อมีข่าวว่าวุฒิสภาสหรัฐอภิปรายเรื่องร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 8.85 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการ "Buy American" (การซื้อสินค้าสหรัฐ) เข้าไว้ด้วย โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะรับประกันว่าโครงการที่ได้รับเงินทุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้จะต้องช่วยสร้างงานในสหรัฐด้วย
สำนักงบประมาณแห่งรัฐสภาสหรัฐ (CBO) เชื่อว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจของวุฒิสภาจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวรวดเร็วกว่าแผนฉบับสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอนุมัติไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้น้ำหนักกับกระแสคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มโอเปคจะลดกำลังการผลิตลงอีก โดยโอเปค ซึ่งมีมติในปีที่แล้วว่าจะลดการผลิตลง 4.2 ล้านบาร์เรล/วัน ได้ออกมาเตือนตลอดสัปดาห์ที่แล้วว่า โอเปคอาจลดกำลังการผลิตลงอีก ขณะที่นายอับดัลเลาะห์ ซาเลม เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปค กล่าวระหว่างการประชุมเศรษฐกิจโลกว่า โอเปคพร้อมลดกำลังการผลิตอีกหากราคาน้ำมันไม่ดีดตัวขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์หลังจากนี้ ซึ่งราคาน้ำมันที่กลุ่มโอเปครับได้ต้องอยู่เหนือระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ประธานาธิบดี ฮูโก ชาเวซ ของเวเนซูเอลา กล่าวว่า กลุ่มโอเปคอาจลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก เพื่อผลักดันให้ราคาน้ำมันที่อยู่ในช่วงขาลงมาอย่างต่อเนื่องดีดตัวขึ้นมาอยู่ในระดับที่ยุติธรรม หลังจากที่การตัดสินใจลดการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน ของที่ประชุมโอเปคเมื่อเดือนที่แล้ว ไม่ส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันมากนัก
สถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐ (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 ม.ค. พุ่งขึ้น 8.1 ล้านบาร์เรล แตะที่ 346.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 184,200 บาร์เรล เหลือเพียง 140.9 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบารเรล แตะ 217.6 ล้านบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล