ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX:น้ำมันดิบปิดลบ $1 หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐร่วงหนัก

ข่าวต่างประเทศ Saturday February 7, 2009 07:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.ที่ดิ่งลงหนักสุดในรอบ 35 ปี

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 1 ดอลลาร์ปิดที่ 40.17 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยน้ำมันแกว่งตัวลงแตะระดับต่ำสุดที่ 38.60 ดอลลาร์/บาร์เรลในระหว่างการซื้อขาย

สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 2.41 เซนต์ ปิดที่ 1.2507 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนมี.ค.ขยับลง 0.74 เซนต์ ปิดที่ 1.3598 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันเบรนท์ที่ตลาด ICE ส่งมอบเดือนมี.ค.ไต่ระดับขึ้น 25 เซนต์ปิดที่ 46.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานประจำเดือนม.ค. ทำสถิติดิ่งลงหนักสุดในรอบ 35 ปีที่ 598,000 ตำแหน่ง และรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 524,000 ตำแหน่ง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้สร้างแรงกดดันให้บรรดานายจ้างต้องปรับลดจำนวนพนักงาน ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.6% เมื่อเทียบกับระดับ 7.2% ในเดือนธ.ค. และทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปี 2535

นักลงทุนในตลาดน้ำมันมองว่า การปรับลดพนักงานจำนวนมากจะยิ่งฉุดรั้งอุปสงค์น้ำมันให้ลดน้อยลงอีก เนื่องจากประชาชนไม่ต้องเดินทางไปทำงานทุกวันเหมือนอย่างที่เคยเป็น ดังนั้นผู้ที่ตกงานเหล่านี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำมันเบนซิน

สตีเฟ่น ชรอค เทรดเดอร์และนักวิเคราะห์กล่าวว่า ความเลวร้ายทางเศรษฐกิจสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมัน แต่เขาเชื่อว่าท้ายที่สุดเทรดเดอร์จะเข้าซื้อน้ำมันจนส่งผลให้ราคาดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล

โดยในปี 2551 เศรษฐกิจสหรัฐต้องสูญเสียแรงงานไปทั้งสิ้น 2.9 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขการปลดพนักงานลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และมีจำนวนสูงกว่าที่ได้ประมาณการณ์ไว้ในเบื้องต้นที่ 2.6 ล้านคน นอกจากนี้ไครสเลอร์ แอลแอลซี เปิดเผยว่า บริษัทจะปิดโรงงานประกอบรถยนต์ 4 แห่งเป็นการชั่วคราวในสัปดาห์หน้า หลังบริษัทประสบปัญหายอดขายในสหรัฐกต่ำ ขณะที่แม็กซ์ เกตส์ โฆษกของไครสเลอร์ส่งสัญญาณว่า บริษัทอาจปิดโรงงานเพิ่มอีกหลายแห่ง ขณะที่ยักษ์ค้าปลีกรายใหญ่อย่างวอล-มาร์ทได้ประกาศแผนการปรับลดพนักงาน 7,000 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ นอกจากสหรัฐแล้ว นักลงทุนยังจับตาความเคลื่อนไหวในประเทศจีนและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อื่นๆเพื่อดูว่า วิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกขยายวงกว้างไปมากแค่ไหน ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าโรงงานในจีนจะยังคงต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี เมื่อไม่นานมานี้ มีรายงานจากรัฐบาลจีนว่า ขณะนี้มีแรงงานอพยพตกงานราว 20 ล้านคน ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า เศรษฐกิจจีนที่ครั้งหนึ่งเคยเฟื่องฟูถึงขีดสุดนั้นกำลังอยู่ในภาวะชะงักงัน

ขณะเดียวกัน เทรดเดอร์ก็จับตาความเป็นไปได้ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะปรับลดกำลังการผลิตลงอีก หลังจากที่ได้ลดเพดานการผลิตไปแล้ว 4.2 ล้านบาร์เรลนับตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ