ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดร่วง $1.96 เหตุนลท.ไม่มั่นใจแผนฟื้นฟูศก.

ข่าวต่างประเทศ Friday February 13, 2009 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 34 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) โดยสัญญาดิ่งลงทำนิวโลว์เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่าแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่า 7.89 แสนล้านดอลลาร์จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการพลังงานให้ดีดตัวขึ้นได้ นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นเกินคาดยังสะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลให้ดีมานด์พลังงานทรุดตัวลงด้วย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.ดิ่งลง 1.96 ดอลลาร์ หรือ 5.45% ปิดที่ 33.98 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 33.55-36.25 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนมี.ค.ดีดขึ้น 0.54 เซนต์ ปิดที่ 1.3218 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดลบ 1.15 เซนต์ แตะที่ 1.2583 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวขึ้น 37 เซนต์ ปิดที่ 44.65 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัว ในช่วง 43.92-45.14 ดอลลาร์ โดยสัญญาเดือนมี.ค.ครบกำหนดส่งมอบใน ช่วงปิดตลาดวันพฤหัสบดี

เอดิสัน อาร์มสตรอง นักวิเคราะห์จากเทรดดิ้ง เอนเนอร์จี กล่าวว่า นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนัก หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 6 ก.พ.พุ่งขึ้น 4.7 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 350.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.1 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลและน้ำมันฮีทติ้งออยล์ ลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 141.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 2.6 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 217.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล และอัตราการกลั่นน้ำมันลดลง 1.9% เหลือเพียง 81.6%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังไม่มั่นใจว่าแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่า 7.89 แสนล้านดอลลาร์จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ โดยเมื่อวานนี้สมาชิกวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐบรรลุข้อตกลงประนีประนอมมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจฉบับดังกล่าว และคาดว่าการลงมติขั้นตอนสุดท้ายจะมีขึ้นในเร็วๆนี้

ประธานาธิบดีบารัค โอบามาคาดหวังว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะสามารถกระตุ้นการจ้างงานได้ถึง 4 ล้านตำแหน่ง ซึ่งการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากตัวเลขจ้างงานประจำเดือนม.ค.ร่วงลง 598,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงหนักสุดในรอบ 35 ปี และอัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปี 2535

จิม ริทเทอร์บุช ประธานบริษัท ริทเทอร์บุช แอนด์ แอสโซซิเอทส์กล่าวว่า "แม้ประธานาธิบดีโอบามาเชื่อมั่นว่ามาตรการเศรษฐกิจจะสามารถกระตุ้นการจ้างงานได้ นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยในขณะนี้กำลังบั่นทอนดีมานด์พลังงาน โดยเฉพาะเมื่อสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) คาดว่าดีมานด์น้ำมันในตลาดโลกปี 2552 อาจลดลง 1.17 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีที่แล้ว เหลือเพียง 84.70 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าดีมานด์น้ำมันในสหรัฐจะลดลง 460,000 บาร์เรลต่อวัน เหลือเพียง 19.02 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2552"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ