สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรก่อนที่ตลาดน้ำมันนิวยอร์กจะปิดทำการในวันจันทร์ เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 3.53 ดอลลาร์ ปิดที่ 37.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 5.2 เซนต์ ปิดที่ 1.2063 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนมี.ค.ลดลง 2.18 เซนต์ ปิดที่ 1.30 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ ปิดที่ 44.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากบริษัท อลารอน เทรดดิ้ง กล่าวว่า "เป็นเรื่องปกติที่นักลงทุนจะเข้าซื้อเก็งกำไรก่อนที่ตลาดจะปิดทำการนานถึง 3 วัน หลังจากที่นักลงทุนได้กระหน่ำขายสัญญาเดือนมี.ค.มาตลอดทั้งสัปดาห์ ข้อมูลของเราบันทึกว่านับตั้งแต่สัญญาน้ำมันทะยานขึ้นเหนือระดับ 42 ดอลลาร์ ก็มีแรงเทขายเข้ามาโดยตลอด ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนไม่มั่นใจในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลบารัค โอบามา และแผนช่วยเหลือภาคการเงินของกระทรวงการคลัง"
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ลงมติผ่านแผนกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 7.87 แสนล้านดอลลาร์ ด้วยคะแนนเสียง 246 ต่อ 183 เสียง โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายและลดหย่อนภาษีเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ขยายตัว
ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐมีกำหนดที่จะเริ่มลงมติตั้งแต่เวลา 05.30 น.ตามเวลาไทยวันนี้ และหากสภาลงมติเห็นชอบต่อแผนฉบับนี้ ก็จะมีการยื่นต่อประธานาธิบดีบารัค โอบามาเพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป โดยโอบามาแสดงเจตนารมณ์ก่อนหน้านี้ว่าต้องการลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายให้ทันในวันที่ 16 ก.พ.นี้
ก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศแผนช่วยเหลือภาคการเงินมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นการกู้ยืมและคลี่คลายปัญหาหนี้เสียของสถาบันการเงิน แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ผิดหวังที่กระทรวงการคลังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเรื่องการแก้ไขหรือจัดการกับสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในระบบการเงิน
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ปรับทบทวนตัวเลขคาดการณ์ดีมานด์น้ำมันในตลาดสหรัฐและตลาดโลก ประจำปี 2551 โดยปรับลดตัวเลขคาดการณ์ดีมานด์น้ำมันในตลาดโลกลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมราว 400,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
ขณะเดียวกัน EIA คาดว่าดีมานด์น้ำมันในตลาดโลกปี 2552 อาจลดลง 1.17 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีที่แล้ว สู่ระดับ 84.70 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าดีมานด์น้ำมันในสหรัฐจะลดลง 460,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 19.02 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2552