สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 4% เมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) เพราะได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปี โดยนักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่อง แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ขู่ว่าจะลดกำลังการผลิตลงอีกในการประชุมเดือนหน้าก็ตาม
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 1.59 ดอลลาร์ หรือ 3.97% ปิดที่ 38.44 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 37.87-41.49 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 2.13 เซนต์ ปิดที่ 1.1754 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 3.13 เซนต์ ปิดที่ 1.0433 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 90 เซนต์ ปิดที่ 40.99 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 40.30-43.45 ดอลลาร์
แอนดรู เลโบว์ นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกลบอล กล่าวว่า ในช่วงเช้านั้นสัญญาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวในแดนบวกหลังจากอิหร่านซึ่งเป็นสมาชิกรายใหญ่ของโอเปคกล่าว่า โอเปคอาจตัดสินใจปรับลดการผลิตลงอีกครั้งในการประชุมเดือนหน้า หากราคาน้ำมันดิบยังร่วงลงอีก
แต่ในช่วงสาย ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมัน NYMEX เป็นไปอย่างตื่นตระหนก หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วง 250.89 จุด หรือ 3.41% ปิดที่ 7,114.78 จุดซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปี เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มการเงิน เพราะไม่มั่นใจว่ารัฐบาลสหรัฐจะสามารถคลี่คลายวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคการเงินได้ สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า บริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) อาจล้มละลาย หากรัฐบาลสหรัฐไม่สามารถให้เงินทุนเพิ่มกับบริษัท
ขณะที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ กำลังทำการเจรจาขายหุ้นให้รัฐบาลสหรัฐ ซึ่งหากการเจรจาครั้งนี้ประสบความสำเร็จ รัฐบาลสหรัฐอาจถือหุ้นสามัญในซิตี้กรุ๊ปเพิ่มขึ้นเป็น 40% ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่แห่งนี้อาจถูกฮุบไปเป็นสมบัติของรัฐและขาดเสรีภาพในการบริหารจัดการตนเอง
นอกจากนี้ CNN รายงานว่า ภายในปลายปีนี้อาจมีธนาคารเกือบ 100 แห่งทั่วสหรัฐ ปิดตัวเองลงในปีนี้ เพราะถูกกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก โดยคิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์ทั้งสิ้น 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ มีธนาคารที่ปิดตัวลงไปแล้วถึง 14 แห่ง รวมถึงธนาคารซิลเวอร์ ฟอลส์ แบงก์ ในรัฐโอเรกอน
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 400,000 บาร์เราล