สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายอย่างต่อเนื่องหลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 966.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 3.30 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 979.70-947.30 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 13.875 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 12.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 3.7 เซนต์ ปิดที่ 1.5370 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,059.10 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 10.40 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 200.45 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 95 เซนต์
ทอม พอล์ลิคกี นักวิเคราะห์ด้านโลหะมีค่าจากเอ็มเอฟ โกลบอล รีเสิร์ช กล่าวว่า นักลงทุนยังคงเทขายสัญญาทองคำอย่างต่อเนื่อง หลังจากสัญญาทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,000 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ โดยปัจจัยที่กดดันสัญญาทองคำมาจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
"อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาทองคำจะพุ่งขึ้นอีก 9% ในปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐเดินหน้าใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลายแสนล้านดอลลาร์ มาตรการดังกล่าวอาจกระตุ้นให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ" พอล์ลิคกีแสดงความเห็น
นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ราคาทองคำในตลาดโลกในสัปดาห์นี้อาจพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 และมีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์ไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากนักลงทุนยังคงมองว่าทองคำเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัยในยามที่ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลง