สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 23 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายทำกำไร หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือสถาบันการเงินที่ขาดสภาพคล่อง ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนบางกลุ่มหันเข้าเทรดในตลาดหุ้นและเทขายสัญญาทองคำ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 942.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 23.60 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 932.20-957.60 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 12.975 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 93.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 4.2 เซนต์ ปิดที่ 1.5790 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,052.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 7.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนมิ.ย.ปิดที่ 198.15 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 3.05 ดอลลาร์
แมท เซมาน หัวหน้านักวิเคราะห์จากลาซาลล์ ฟิวเจอร์ส ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า "ราคาทองคำยังคงถูกกดดันจากแรงขายทำกำไร หลังจากทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,000 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลสหรัฐมุ่งมั่นใช้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการช่วยเหลือสถาบันการเงิน ทำให้นักลงทุนสนใจเข้าลงทุนในตลาดหุ้นมากกว่าหากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น"
กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศแผนทดสอบความสามารถในการรักษาฐานะทางการเงิน (stress test) ของ 19 ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ภายในประเทศ รวมถึง ซิตี้กรุ๊ป, อเมริกัน เอ็กซ์เพรส และโกลด์แมน แซคส์ เพื่อประเมินว่าสถาบันการเงินแต่ละแห่งมีเงินทุนเพียงพอที่จะรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่ ซึ่งหากไม่เพียงพอ ทางรัฐบาลก็จะยื่นมือช่วยเหลือ