ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดพุ่ง $2.72 หลังยสต็อกเบนซินสหรัฐร่วงเกินคาด

ข่าวต่างประเทศ Friday February 27, 2009 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินที่ร่วงลงเกินความคาดหมาย และสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นแม้เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ตาม

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 2.72 ดอลลาร์ หรือ 6.4% ปิดที่ 45.22 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.เป็นต้นมา

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนมี.ค.ดีดขึ้น 5.64 เซนต์ ปิดที่ 1.2941 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 13.17 เซนต์ ปิดที่ 1.3004 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 2.22 ดอลลาร์ หรือ 5.01% ปิดที่ 46.51 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัว ในช่วง 44.15-46.63 ดอลลาร์

ทอม โคลซา นักวิเคราะห์จากออยล์ ไพรซ์ อินฟอร์เมชั่น เซอร์วิส กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบต่อเนื่องจากเมื่อวันพุธ หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 20 ก.พ.เพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล แตะระดับ 351.3 ล้านบาร์เรล แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 215.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 100,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการกลั่นน้ำมันลดลง 0.9% เหลือเพียง 81.4% มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 0.1%

"สต็อกน้ำมันเบนซินที่ร่วงลงเกินความคาดหมายและสต็อน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด สะท้อนให้เห็นว่าแม้สหรัฐเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและตัวเลขว่างงานที่พุ่งขึ้นรุนแรง แต่ดีมานด์พลังงานยังคงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงตัวเลขว่างงานและยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงอย่างหนัก" โคลซากล่าว

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับ 667,000 รายในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 21 ก.พ. จากรอบสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ 631,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิจะลดลงสู่ระดับ 625,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.ร่วงลง 10.2% เหลือเพียง 309,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2506 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.จะอยู่ที่ 330,000 ยูนิต

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค.ร่วงลง 5.2% เหลือเพียง 1.638 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีพ.ศ.2545 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค.จะลดลงเพียง 2.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ