ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดร่วง $4.61 เหตุวิตกศก.ถดถอยฉุดดีมานด์พลังงานทรุด

ข่าวต่างประเทศ Tuesday March 3, 2009 06:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 4 ดอลลาร์ หรือกว่า 10% เมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยในระดับที่ลึกขึ้น โดยเฉพาะเมื่อกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4 ที่หดตัวลงอย่างรุนแรง และบริษัทประกันยักษ์ใหญ่ อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี) เปิดเผยตัวเลขขาดทุนไตรมาส 4 เป็นวงเงินสูงถึง 6.17 หมื่นล้านดอลลาร์

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 4.61 ดอลลาร์ ปิดที่ 40.15 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 42.45-40.15 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 9.5 เซนต์ ปิดที่ 1.2775 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 11.3 เซนต์ ปิดที่ 1.1539 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.ดิ่งลง 4.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 42.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

ไมเคิล ลินช์ นักวิเคราะห์จาก Strategic Energy & Economic Research กล่าวว่า "สัญญาน้ำมันดิบดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 40 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกหลังจากทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่และสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยในระดับที่ลึกขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อดีมานด์พลังงานด้วย โดยนักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบตั้งแต่ช่วงเช้าโดยไม่สนใจต่อการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มโอเปคจะลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมเดือนนี้"

กระแสความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยมีขึ้นหลังจากกระทรวพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2551 หดตัวลง 6.2%ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวรุนแรงสุดในรอบ 27 ปี และมากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้นว่าจะหดตัวเพียง 3.8% เนื่องจากการทรุดตัวลงของยอดส่งออก, ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค และการลงทุนในภาคเอกชน

ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของโรงงานทั่วประเทศสหรัฐขยับขึ้นสู่ระดับ 35.8 จุดในเดือนก.พ.จากเดือนม.ค.ที่ 35.6 จุด แต่ดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต

นอกจากนี้ เอไอจีรายงานการขาดทุน 6.17 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ปี 2551 ซึ่งเป็นตัวเลขขาดทุนสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ผลประกอบการตลอดทั้งปี 2551 เอไอจีขาดทุนสุทธิ 9.93 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งการรายงานผลประกอบการของเอไอจีมีขึ้นในขณะเดียวกับที่กระทรวงการคลังสหรัฐ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน ระบุว่า เอไอจี จะได้รับการอัดฉีดเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ที่รัฐบาลยื่นมือเข้ามาพยุงบริษัทให้รอดพ้นจากวิกฤติ เนื่องจากเกรงว่า เอไอจีอาจสร้างความเสียหายต่อระบบการเงินทั้งระบบได้

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 800,000 บาร์เรล และอัตราการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.2%

สำนักข่าว IRNA รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนายโกห์แลม ฮอสเซน รมว.พลังงานอิหร่าน ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องการลดกำลังกรผลิตในการประชุมเดือนนี้ แต่จะมีการหารือเรื่องนโยบายที่จะกระตุ้นราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ซาอุดิอาระเบียและประเทศอื่นๆที่เป็นสมาชิกกลุ่มโอเปคอาจตัดสินใจลดกำลังการผลิตครั้งที่ 4 ในรอบ 6 เดือน เพื่อยับยั้งการร่วงลงของราคาน้ำมัน ขณะที่รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบียระบุว่า ภาวะผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดน้ำมันเป็นผลมาจากการเก็งกำไร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ