สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 สัปดาห์จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปคจะปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันเพื่อควบคุมปริมาณน้ำมันในสต็อกและเพื่อกระตุ้นราคาน้ำมันในตลาดโลก
โดยรายงานของนสพ.วอลล์สตรีทเจอร์นัลระบุคำกล่าวของนายฮุสเซน อัล ชาห์ริสทานี รัฐมนตรีน้ำมันของอิรักว่า โอเปคควรปรับลดเพดานการผลิตเพื่อควบคุมผลผลิตน้ำมันส่วนเกินในตลาดโลก ขณะที่รัฐมนตรีคลังของเวเนซูเอล่ากล่าวว่า ราคาน้ำมันร่วงลงอย่างหนักจากผลกระทบของอุปสงค์เชื้อเพลิงทั่วโลกที่ลดลง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 08:30 น.ตามเวลาสิงคโปร์ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนเม.ย.เคลื่อนไหวที่ระดับ 46.65 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันพุ่งสูงสุด 1.23 ดอลลาร์ หรือ 2.7% แตะที่ 46.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
เดวิด มัวร์ นักวิเคราะห์จากคอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย กล่าวว่า "โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าที่ประชุมโอเปคจะมีมติให้ปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจากคาดว่า อุปสงค์น้ำมันจะลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อช่วง 2-3 เดือนก่อน ซึ่งที่ประชุมมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะกดดันให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอีกระลอก หากที่ประชุมไม่ปรับลดเพดานการผลิตน้ำมัน"
ทั้งนี้ โอเปคเป็นกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันราว 40% ของปริมาณน้ำมันทั่วโลกซึ่งได้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 3 ครั้งนับตั้งแต่เดือนก.ย.เพื่อสกัดช่วงขาลงของราคาน้ำมันและเพื่อป้องกันมิให้เกิดภาวะผลผลิตน้ำมันล้นตลาด ทั้งนี้ กลุ่มประเทศสมาชิกโอเปคจะเข้าร่วมประชุมกันที่กรุงเวียนนาในวันที่ 15 มี.ค.นี้