สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ พุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันนี้ ขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 15 มี.ค.ที่กรุงเวียนนา
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.4% แตะที่ 47.27 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้านี้
ลอว์เรนซ์ อีเกิลส์ นักวิเคราะห์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค กล่าวว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าโอเปคจะลดกำลังการผลิตลงอีกในการประชุมวันที่ 15 มี.ค.นี้ หลังจากนายอับดุลเลาะห์ อัล บาดรี รมว.พลังงานกาตาร์ ในฐานะเลขาธิการโอเปค กล่าวว่า โอเปคควรลดกำลังการผลิตลงอีก 800,000 บาร์เรลต่อวัน
ปิแอร์ อองดูรองด์ ผู้บริหารบริษัท BlueGold Capital Management LLP ซึ่งเป็นเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ของอังกฤษ คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะพุ่งขึ้น 37% แตะที่ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล หากกลุ่มโอเปคมีมติลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 15 มี.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นการลดกำลังการผลิตครั้งที่ 4 นับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีพ.ศ.2551 เพื่อสกัดกั้นการร่วงลงของราคาน้ำมัน
ขณะที่ มุสซา มาราฟี เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสภาปิโตรเลียมแห่งชาติของคูเวตกล่าวว่า ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลในไตรมาสสาม หากโอเปคลดกำลังการผลิตลง 1 ล้านบาร์เรลในการประชุมครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ลีโอ ดรอลลัส รองผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาพลังงานโลกคาดการณ์ว่า ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นสมาชิกรายใหญ่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดในกลุ่มโอเปคจะออกมาขัดขวางแผนการลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 15 มี.ค.นี้ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นในขณะนี้ทำให้รายได้จากการขายน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอยู่แล้ว
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 6 มี.ค. ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 400,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 800,000 บาร์เรล