สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียพุ่งขึ้นเฉียดระดับ 43 ดอลลาร์/บาร์เรลหลังจากที่ร่วงลง 7.4% เมื่อวานนี้ทันทีที่รัฐบาลเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสำรองเพิ่มสูงกว่าที่คาดการณ์ ขณะที่ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน
ณ เวลา 09:37 น.ตามเวลาซิดนีย์ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ แตะที่ระดับ 42.80 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยเมื่อวานนี้สัญญาน้ำมันร่วงลง 3.38 ดอลลาร์ปิดที่ 42.33 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 749,000 บาร์เรลสู่ระดับ 351.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์จากโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 250,000 บาร์เรล
"อุปสงค์น้ำมันยังคงอยู่ในระดับต่ำ" ฟิล ไฟลนน์ นักวิเคราะห์จาก Alaron Trading Corp. กล่าว "ปริมาณน้ำมันส่วนเกินที่มีมากเกินความจำเป็น จะทำให้สหรัฐไม่จำเป็นต้องเพิ่มผลผลิตน้ำมันในกรณีที่อุปสงค์เชื้อเพลิงปรับตัวเพิ่มขึ้น"
โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นปริมาณการใช้เชื้อเพลิงในสหรัฐตกลง 3.5% มาอยู่ที่ 18.9 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 9 ม.ค. โดยอุปสงค์น้ำมันโดยเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 19.3 ล้านบาร์เรล ลดลง 2.1% จากปีก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานคาดการณ์ว่า ปริมาณการใช้น้ำมันทั่วโลกโดยเฉลี่ยในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 84.27 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งลดลงจากปีที่ผ่านมา 1.38 ล้านบาร์เรล