กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) มีมติคงเพดานการผลิตในปัจจุบันเอาไว้จนถึงเดือนพ.ค.และจะมีการประเมินสถานการณ์ในตลาดพลังงานอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 28 พ.ค.นี้ โดยปัจจุบันเพดานการผลิตน้ำมันของโอเปคอยู่ที่ 24.84 ล้านบาร์เรล/วัน หลังจากชาติสมาชิกตัดสินใจลดเพดานการผลิตลง 4.2 ล้านบาร์เรล/วันเมื่อปีที่แล้ว เพื่อสกัดกั้นราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างหนัก
รัฐมนตรีกลุ่มโอเปคเห็นพ้องต้องกันว่าให้คงเพดานการผลิตไว้เท่าเดิม ในการประชุมโอเปคครั้งที่ 152 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งที่ผ่านมานั้นโอเปคพยายามสกัดกั้นการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบอันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ด้วยการตัดสินใจลดเพดานการผลิตลงรวม 3 ครั้งนับแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว
โอมาร์ อิบราฮิม โฆษกโอเปคกล่าวภายหลังการประชุมว่า ในช่วงต้นของการประชุมนั้น โอเปคได้หยั่งเสียงชาติสมาชิกว่าต้องการลดเพดานการผลิตในปัจจุบันลงหรือไม่ และประเมินปัจจัยต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในปัจจุบัน โดยนายอับดุลเลาะห์ ซาเล็ม เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปคกล่าวว่า จนถึงขณะนี้โอเปคได้ลดเป้าหมายการผลิตลงไปมากแล้ว แต่ก็มีแนวโน้มที่จะลดการผลิตลงอีก ทั้งนี้ก็ต้องประเมินสถานการณ์ในตลาดน้ำมันอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไปวันที่ 28 พ.ค.
ด้านนายโฮเซ่ มาเรีย โบเทลโฮ เดอ วาสคอนเซลอส ประธานในที่ประชุมโอเปค คาดการณ์ว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปคจะยังคงเพิ่มกำลังการผลิตในปีนี้ พร้อมกับเรียกร้องให้ผู้ผลิตน้ำมันกลุ่มนี้ดำเนินการตามเจตนารมณ์ในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน
"การสร้างเสถียรภาพราคาน้ำมันในตลาดโลกไม่เพียงแต่เป็นผลประโยชน์ของกลุ่มโอเปคเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปค และผู้ใช้น้ำมันด้วย การปล่อยให้ราคาน้ำมันร่วงลงสู่ระดับต่ำมากๆจะสร้างความเสียหายต่อการลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมัน และส่งผลกระทบในด้านลบต่อเสถียรภาพด้านอุปทานในอนาคต" นายโฮเซ่กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ราคาน้ำมันที่ระดับใดจึงเหมาะสม นายโฮเซ่กล่าวว่า "ควรเป็นระดับราคาที่สร้างความพอใจให้กับทั้งผู้ใช้และผู้ลงทุน สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันยังไร้ทิศทางและไม่ชัดเจน จึงทำให้โอเปคต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวในตลาดอย่างใกล้ชิด และเราจะประกาศยุทธศาสตร์ด้านการผลิตครั้งต่อไปในที่ประชุมโอเปคครั้งหน้า วันที่ 28 พ.ค." สำนักข่าวเอพีรายงาน