กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 มี.ค.พุ่งขึ้น 2.0 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 353.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปี 2550 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.0 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 215.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล แตะที่ 145.5 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 700,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.6% เหลือเพียง 82.1%
สต็อกน้ำมันข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่รัฐบาลสหรัฐประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย สำนักข่าวเอพีรายงาน