สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ พุ่งขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนลดการให้ความสนใจต่อสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันกลั่นของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด แต่หันไปให้น้ำหนักกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ทะยานขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้น 71 เซนต์ แตะที่ 48.85 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงบ่ายวันนี้ จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 48.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนขานรับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ทะยานขึ้นถ้วนหน้าในวันนี้ ขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประกาศใช้มาตการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภค, การปล่อยกู้ในภาคเอกชน และการจ้างงาน
นอกจากนี้ เฟดจะขยายการรับซื้อตราสารที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) อีก 7.50 แสนล้านดอลลาร์ และจะเข้าซื้อตราสารหนี้ที่ออกโดย หรือ รับประกันโดยสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้เพื่อการซื้อบ้านรายใหญ่ 2 แห่ง คือ แฟนนี เม และเฟรดดี แมค ในปีนี้ด้วย
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 มี.ค.พุ่งขึ้น 2.0 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 353.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปี 2550 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.0 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 215.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล แตะที่ 145.5 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 700,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.6% เหลือเพียง 82.1%