สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกในตลาดเอเชีย ขยับลงเล็กน้อยในวันนี้ แต่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ผ่านการเข้าซื้อพันธบัตร ซึ่งทำให้สกุลเงินดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 12.24 น.ตามเวลาซิดนีย์ในวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนเม.ย.ลดลง 61 เซนต์ แตะที่ 51.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
มาร์ค เพอร์แวน นักวิเคราะห์จาก Australia & New Zealand Banking Group กล่าวว่า สัญญาน้ำมัน NYMEX พุ่งขึ้น 7.2% เมื่อวานนี้ หลังจากเฟดประกาศอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ผ่านการเข้าซื้อพันธบัตร ซึ่งกดดันสกุลเงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับค่าเงินหลักๆของโลก แต่เป็นปัจจัยบวกต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมันและทองคำ
ออยล์ มูฟเมนท์รายงานว่า กลุ่มโอเปคจะลดการส่งออกน้ำมันดิบ 3.3% เป็นเวลา 4 สัปดาห์ โดยจะสิ้นสุด ณ วันที่ 4 เม.ย.เพื่อให้สอดคล้องกับโควต้าที่กำหนดไว้
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น 11.6% นับตั้งแต่กลุ่มโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตในการประชุมที่กรุงเวียนนาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะมีการประเมินสถานการณ์ในตลาดพลังงานอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 28 พ.ค.นี้ โดยปัจจุบันเพดานการผลิตน้ำมันของโอเปคอยู่ที่ 24.84 ล้านบาร์เรล/วัน อย่างไรก็ตาม โอเปคส่งสัญญาณว่าอาจจะไม่ลดกำลังการผลิตในการประชุมเดือนพ.ค.หลังจากการลดกำลังการผลิตในช่วงที่ผ่านมาไม่สามารถสกัดกั้นการร่วงลงของราคาน้ำมันได้