ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดร่วง $1.27 หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งเกินคาด

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 2, 2009 06:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 เม.ย.) หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นเกินความคาดหมาย ซึ่งตอกย้ำความกังวลของนักลงทุนที่ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะฉุดรั้งดีมานด์พลังงานให้หดตัวลงด้วย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 1.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.39 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 48.39-47.55 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินเดือนพ.ค.ลดลง 4.96 เซนต์ ปิดที่ 1.3717 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนพ.ค.ลดลง 2.21 เซนต์ ปิดที่ 1.3458 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 79 เซนต์ ปิดที่ 48.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

จิม ริทเทอร์บุช ประธานบริษัท Ritterbusch and Associates กล่าวว่า นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนัก หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 27 มี.ค.พุ่งขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 359.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล แตะที่ 216.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะร่วงลง 1.4 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล แตะที่ 144.2 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะลดลง 800,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.3% แตะที่ 81.7%

นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมัน NYMEX ซบเซาลงเนื่องจากความวิตกกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจาก ADP National Employment Report รายงานว่า ภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานลง 742,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

ภาวะการซื้อขายซบเซาหนักขึ้นเมื่อจีนเผยภาคการผลิตหดตัวลงเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันในเดือนมี.ค. หลังวิกฤตเศรษฐกิจโลกกดดันให้ภาคการส่งออกซบเซาทั่วเอเชีย โดยดัชนีการจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) ลดลงสู่ระดับ 44.8 จุดในเดือนมี.ค. จาก 45.1 จุดในเดือนก.พ. ซึ่งหากต่ำกว่าระดับ 50 จุดถือว่ามีการหดตัวลง

ขณะที่ญี่ปุ่นเปิดเผยว่าอัตราว่างงานเดือนก.พ.พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.4% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ค่าแรงในญี่ปุ่นลดลงรวดเร็วที่สุดในรอบ 5 ปี

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์ที่ 3 เม.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 8.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 8.1% และคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) เดือนมี.ค.จะร่วงลง 660,000 คน ซึ่งจะทำให้จำนวนคนตกงานโดยรวมพุ่งขึ้นเป็น 5 ล้านคน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมโอเปคในวันที่ 28 พ.ค.นี้ หลังจากโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตในการประชุมครั้งก่อนที่กรุงเวียนนา โดยปัจจุบันเพดานการผลิตน้ำมันของโอเปคอยู่ที่ 24.84 ล้านบาร์เรล/วัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ