สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 49 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีเสถียรภาพมากขึ้นและจะช่วยให้ดีมานด์พลังงานปรับตัวสูงขึ้นด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ในช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาสิงคโปร์ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนพ.ค.ดีดตัวขึ้น 74 เซนต์ แตะที่ 49.12 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 48.39 ดอลลาร์
โจนาธาน คาร์นาเฟล นักวิเคราะห์จากบริษัท Hudson Capital Energy ในสิงคโปร์กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบหลังจากสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ในเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 2.1% แตะระดับ 82.1 จุด จากระดับ 80.4 ในเดือนม.ค. เนื่องจากผู้ซื้อบ้านชาวสหรัฐสบโอกาสซื้อบ้านในช่วงที่ราคาบ้านถูกลงและอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ
ขณะที่สำนักงานจัดการด้านอุปทานแห่งสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างลดลง 0.9% แตะระดับ 9.675 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะร่วงลง 1.8%
สัญญาน้ำมัน NYMEX ที่ตลาดนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 27 มี.ค.พุ่งขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 359.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล แตะที่ 216.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะร่วงลง 1.4 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล แตะที่ 144.2 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะลดลง 800,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.3% แตะที่ 81.7%
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องตัวเลขจ้างงานในสหรัฐหลังจาก ADP National Employment Report รายงานว่า ภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานลง 742,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมโอเปคในวันที่ 28 พ.ค.นี้ หลังจากโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตในการประชุมครั้งก่อนที่กรุงเวียนนา โดยปัจจุบันเพดานการผลิตน้ำมันของโอเปคอยู่ที่ 24.84 ล้านบาร์เรล/วัน