ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดพุ่ง $4.25 จากข่าว G20 เร่งกู้วิกฤติศก.โลก

ข่าวต่างประเทศ Friday April 3, 2009 06:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 52 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรปลดอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยบวกจากความเชื่อมั่นที่ว่าที่ประชุมสุดยอด G20 จะใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพในการยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 4.25 ดอลลาร์ หรือ 8.78% ปิดที่ 52.64 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 48.45-52.87 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 9.33 เซนต์ ปิดที่ 1.4391 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ค.ดีดขึ้น 9.81 เซนต์ ปิดที่ 1.4698 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 4.31 ดอลลาร์ หรือ 8.9 % ปิดที่ 52.75 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 48.59-53.06 ดอลลาร์

ปีเตอร์ บูเทล นักวิเคราะห์จาก Cameron Hanover กล่าวว่า สัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรปตัดสินใจลดดอกเบี้ยลง 0.25% แตะที่ระดับ 1.25% ในการประชุมเมื่อเย็นวานนี้ ซึ่งผิดความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่เชื่อว่าธนาคารลางจะลดดอกเบี้ยลง 0.5% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1%

ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนก.พ. หลังร่วงลง 3.5% ในเดือนม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่ายอดสั่งซื้อจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5% ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรง

นักลงทุนคาดว่าผู้นำกลุ่ม G20 จะสามารถยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอยและกระตุ้นความต้องการพลังงานขึ้นได้ หลังจากแถลงการณ์ของที่ประชุม G20 ระบุว่า ที่ประชุมเห็นพ้องที่จะอัดฉีดเงินทุนให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพิ่มอีก 5 แสนล้านดอลลาร์ รวมกับเงินทุนเดิมเป็น 7.5 แสนล้านดอลลาร์ สำหรับช่วยเหลือประเทศที่เผชิญกับมรสุมทางเศรษฐกิจและการเงิน และจะเปิดทางให้ IMF ปล่อยกู้เงินยืมฉุกเฉินให้กับตลาดทุนทั่วโลกในกรณีที่จำเป็น

นอกจากนี้ ที่ประชุม G20 ยังเตรียมทุ่มเงินถึง 2.5 แสนล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นการค้าโลกในระยะ 2 ปี โดยเงินจำนวนดังกล่าวจะนำไปใช้เป็นสินเชื่อเพื่อการส่งออกและการลงทุน รวมถึงอัดฉีดให้กับธนาคารเพื่อการลงทุนระดับภูมิภาค

บูเทลกล่าวว่า แม้สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเหนือระดับ 52 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเรื่องอัตราว่างงานในสหรัฐ หลังจาก ADP National Employment Report รายงานว่า ภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานลง 742,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ชาวอเมริกันที่เข้ารับสวัสดิการในระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 28 มี.ค.พุ่งขึ้น 12,000 ราย แตะระดับ 669,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 27 ปี

นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์ที่ 3 เม.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 8.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 8.1% และคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) เดือนมี.ค.จะร่วงลง 660,000 คน ซึ่งจะทำให้จำนวนคนตกงานโดยรวมพุ่งขึ้นเป็น 5 ล้านคน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ