สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์แกว่งตัวขึ้นในช่วงเที่ยงวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นคึกคักมาตลอด 2 เดือนนั้นจะดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ ขณะที่อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกยังคงซบเซา
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ในช่วงเที่ยงวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ แตะที่ 51.19 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันร่วงลง 1.46 ดอลลาร์ปิดที่ 51.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
เทรดเดอร์ในตลาดน้ำมันกำลังจับตาการรายงานผลประกอบการบริษัทเอกชนประจำไตรมาสแรกเพื่อนำมาใช้เป็นปัจจัยบ่งชี้ทิศทางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในสหรัฐ
โดยราคาน้ำมันเริ่มถีบตัวขึ้นจากระดับ 35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนก.พ. เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์บางสำนักเกรงว่าตัวเลขผลประกอบการอาจไม่เพียงพอที่จะใช้ชี้วัดสภาพเศรษฐกิจที่ทำให้ราคาน้ำมันกระเตื้องขึ้นได้ในช่วงที่ผ่านมา
โดยบริษัทอัลโค อิงค์ ผู้ผลิตอลูมิเนียมเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่รายแรกที่มีกำหนดเปิดเผยรายงานผลประกอบการรายไตรมาส
เดวิด มัวร์ นักวิเคราะห์จากคอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย ในซิดนีย์กล่าวว่า "ภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกยังอยู่ในภาวะอ่อนแออย่างมาก และผมคิดว่าราคาน้ำมันจะกระเตื้องขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปริมาณการใช้น้ำมันในสหรัฐยังมีอิทธิพลต่อมุมมองของนักลงทุนที่มีต่อตลาด และคาดว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลดต่ำกว่าระดับ 40 ดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่ 2"
ขณะเดียวกัน นักลงทุนไม่มีปฏิกิริยาต่อการรายงานตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ระบุถึงอัตราว่างงานเดือนมี.ค.ที่เพิ่มขึ้นแตะระดับ 8.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 25 ปี