ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดลบ 16 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันสหรัฐพุ่งเกินคาด

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 16, 2009 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจทำให้ดีมานด์พลังงานลดลงด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อมูลด้านการผลิตที่ยังคงหดตัวในสหรัฐ

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 16 เซนต์ ปิดที่ 49.25 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ค.ขยับลงเล็กน้อย แตะที่ 1.4509 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนพ.ค.ทรงตัวที่ 1.401 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 17 เซนต์ ปิดที่ 51.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

ฟิล ไฟน์ นักวิเคราะห์จากอลารอน เทรดดิ้ง กล่าวว่า นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมร่วงลงรุนแรงเกินคาด 1.5% ในเดือนมี.ค. และอัตราการใช้กำลังผลิตร่วงลงสู่ระดับ 69.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปีค.ศ. 1967 เป็นต้นมา ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าการผลิตในภาคอุตสาหกรรมจะลดลง 1.0% ในเดือนมี.ค. และอัตราการใช้กำลังผลิตจะอยู่ที่ 69.6% ในเดือนมี.ค.

ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับปัจจัยลบหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 10 เม.ย.พุ่งขึ้น 5.6 ล้านบาร์เรล หรือ 1.6% แตะที่ 366.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าระดับเฉลี่ยของปีที่แล้วประมาณ 16.5% และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ McGraw-Hill Cos.คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.5 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 900,000 บาร์เรล หรือ 0.4% แตะที่ 216.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าระดับเฉลี่ยของปีที่แล้วประมาณ 0.6% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 960,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลและฮีทติ้งออยล์ ดิ่งลง 1.2 ล้านบาร์เรล แตะที่ 139.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล

สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) คาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันโลกจะปรับตัวลง 2.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 83.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2547 เนื่องจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำได้ฉุดความต้องการใช้น้ำมัน

ไออีเอได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันปี 2552 ลงเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันแล้ว พร้อมกับคาดว่าเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวในปีหน้า ซึ่งขัดแย้งกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ว่า ความต้องการเชื้อเพลิงจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ทั้งนี้ ดีมานด์ที่ปรับตัวลดลงทำให้ปริมาณสำรองน้ำมันดิบในประเทศพัฒนาแล้ว หรือกลุ่ม OECD ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2536 โดยสต็อกน้ำมันดิบของโลกในปัจจุบันเทียบเท่ากับปริมาณการบริโภคได้นาน 61.6 วัน ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงกว่าที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ต้องการมาก

ขณะที่โอเปคคาดการณ์ว่าดีมานด์พลังงานทั่วโลกในปีนี้จะอยู่ที่ 84.2 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลง 1.6% จากปีที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ