สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลง จากปัจจัยลบของกระแสคาดการณ์ที่ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะฉุดรั้งอุปสงค์น้ำมัน ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 19 ปี
กระทรวงพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาพุ่งขึ้น 5.6 ล้านบาร์เรลแตะที่ 366.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2533 ขณะที่สำนักงานพลังงานสากลระบุว่า ปริมาณการใช้น้ำมันทั่วโลกจะหดตัวลง 2.8% ในปีนี้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซา
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 10:01 น.ตามเวลาสิงคโปร์ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนพ.ค.เคลื่อนไหวที่ระดับ 49.83 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันตกลงหนักสุด 48 เซนต์แตะระดับ 49.50 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยในสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันร่วงลงแล้ว 4.6%
ด้านน้ำมันดิบเบรนท์งวดส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาด ICE ในกรุงลอนดอนเพิ่มขึ้น 12 เซนต์แตะที่ 53.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
โทบี้ ฮาสแซลล์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Commodity Warrants Australia Ltd. ในซิดนีย์กล่าวว่า "แนวโน้มอุปสงค์ยังคงซบเซา และปัจจัยพื้นฐานในตลาดน้ำมันยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงความเคลื่อนไหวในแง่บวก"
ด้านสถาบันพลังงานอเมริกาเปิดเผยว่า อุปสงค์เชื้อเพลิงของสหรัฐในไตรมาสแรกร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี ขณะที่อัตราการใช้เชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 19.2 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งลดลง 3.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา