สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐประเมินว่าธนาคารส่วนใหญ่มีทุนสำรองเพียงพอที่จะรับมือกับการขาดทุน ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะมีเสถียรภาพมากขึ้นและจะทำให้ดีมานด์พลังงานเพิ่มขึ้นด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ ปิดที่ 46.51 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเดือนพ.ค.ได้ครบกำหนดส่งมอบเมื่อคืนนี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเดือนมิ.ย.ดีดขึ้น 4 เซนต์ ปิดที่ 48.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 0.25 เซนต์ ปิดที่ 1.4144 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 1.62 เซนต์ ปิดที่ 1.3478 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 4 เซนต์ ปิดที่ 49.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
เอดิสัน อาร์มสตรอง นักวิเคราะห์จาก Tradition Energy ในกรุงนิวยอร์ก กล่าวว่า "ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมัน NYMEX ได้รับแรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ที่พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด หลังจากรมว.คลังสหรัฐธนาคารส่วนใหญ่มีทุนสำรองเพียงพอที่จะปกป้องการขาดทุนได้"
"แม้การประเมินสถานการณ์ในภาคการเงินของไกธ์เนอร์ทำให้เกิดภาวะ 'คาบเกี่ยว' ทางความรู้สึกว่าภาคการเงินจะฟื้นตัวขึ้นจริงหรือไม่ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ที่จะบอกว่าตลาดน้ำมัน NYMEX ดีดตัวขึ้นเพราะปรากฏการณ์ Tim Geithner rally" อาร์มสตรองกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมัน NYMEX ได้รับแรงหนุนจากการที่นายมูฮัมหมัด อาลี คาทิบี ผู้แทนอิหร่านประจำกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) กล่าวว่า อิหร่านจะสนับสนุนให้โอเปคลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมที่จะจัดขึ้นที่กรุงเวียนนาในเดือนพ.ค.นี้ หากตลาดน้ำมันอยู่ในภาวะ over supply ผู้แทนอิหร่านประจำโอเปคยังกล่าวด้วยว่า อิหร่านคิดว่าราคาน้ำมันดิบที่ระดับ 50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลในปัจจุบันนั้น เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในขณะนี้ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ต้องการให้น้ำมันเคลื่อนไหวคงที่อยู่ในช่วง 75-80 ดอลลาร์มากกว่า เนื่องจากเหมาะสมสำหรับการพัฒนาโครงการต่างๆในอุตสาหกรรมน้ำมัน ซึ่งความคิดเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับ โกลัม ฮอสเซน โนซารี รัฐมนตรีน้ำมันอิหร่าน ที่กล่าวเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ว่า ราคาน้ำมันที่อยู่ในช่วง 75-80 ดอลลาร์ จะเอื้อประโยชน์ต่ออิหร่าน ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโอเปค กระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ในคืนวันพุธนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 400,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.2%