อับดุลเลาะห์ เอล-บาดรี เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) เปิดเผยว่า โอเปคจะลดปริมาณการผลิตในการประชุมวันที่ 28 พ.ค.นี้ หากราคาน้ำมันร่วงลงมากเกินไป
"ผมมั่นใจว่าหากราคาน้ำมันดิบร่วงลงมากเกินไป โอเปคก็อาจตัดสินใจลดปริมาณการผลิตในการประชุมวันที่ 28 พ.ค.นี้ ที่ผ่านมานั้นหลายประเทศที่เป็นสมาชิกกลุ่มโอเปคต้องเลื่อนโครงการขุดเจาะน้ำมันออกไปเนื่องจากราคาร่วงลงอย่างหนัก" เลขาธิการโอเปคกล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่อัลจีเรียในช่วงเช้าวันนี้ นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มโอเปคนับตั้งแต่โอเปคมีมติคงเพดานการผลิตในการประชุมครั้งหลังสุดที่กรุงเวียนนา โดยปัจจุบันเพดานการผลิตน้ำมันของโอเปคอยู่ที่ 24.84 ล้านบาร์เรล/วัน
ก่อนหน้านี้นายเอล-บาดรีเรียกร้องให้ทางการสหรัฐควบคุมการเก็งกำไรน้ำมันของกลุ่มเฮดจ์ฟันด์ซึ่งโอเปคระบุว่าเป็นสาเหตุให้ราคาน้ำมันผันผวนอย่างรุนแรงเมื่อปีที่แล้ว พร้อมกล่าวว่าโอเปคจะกำหนดข้อบังคับเพื่อควบคุมการเก็งกำไรของกลุ่มนักลงทุนที่เข้าซื้อน้ำมันโดยไม่มีแผนที่จะใช้น้ำมัน
"โอเปคเล็งเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่เราควรจะลดกระแสการเก็งกำไรในตลาด การกำหนดข้อบังคับครั้งนี้จะทำให้เรารู้ได้ทันทีว่าใครเข้ามาขายหรือซื้อสัญญาน้ำมันในตลาดล่วงหน้า ในช่วงกลางปีที่แล้วสัญญาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ราคาทรุดตัวลงอย่างหนักจนถึงปลายปีเนื่องจากการเก็งกำไร ซึ่งเป็นเหตุให้โอเปคต้องลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่" เอล-บาดรีกล่าว
ปิแอร์ อองดูรองด์ ผู้บริหารบริษัท BlueGold Capital Management LLP ซึ่งเป็นเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ของอังกฤษ คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะพุ่งขึ้น 37% แตะที่ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล หากโอเปคมีมติลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 28 พ.ค.ซึ่งจะเป็นการลดกำลังการผลิตครั้งที่ 4 นับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีพ.ศ.2551 เพื่อสกัดกั้นการร่วงลงของราคาน้ำมัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน