ราคาข้าวโฟดและถั่วเหลืองอ่อนตัวลงจากการคาดการณ์ที่ว่า การระบาดของไข้หวัดหมูอาจจะทำให้ความต้องการเนื้อหมู และธัญพืชที่ใช้เป็นอาหารสัตว์ลดลง ส่งผลกระทบต่อความพยายามของรัฐบาลที่จะยุติภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ระบุถึงการแพร่ระบาดครั้งนี้ว่า โรคไข้หวัดหมูเป็น "สถานการณ์ฉุกเฉินทางสาธารณสุขในระดับโลก"และมีผู้เสียชีวิตถึง 81 รายในเม็กซิโกที่ป่วยเพราะติดเชื้อไวรัสที่ปกติจะติดเชื้อผ่านทางสุกร การระบาดของไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลเหมือนเมื่อคราวที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสหวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ในเอเชียเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วที่ส่งผลให้มีการกำจัดสัตว์ปีกหลายล้านตัว และมีผู้ป่วยจำนวนมาก อีกทั้งการซื้อขายสัตว์ปีกที่ชะลอตัวลง
บลูมเบิร์กรายงานว่า ฮิโรยูกิ คิคูกาว่า ผู้จัดการทั่วไปของบล. IDO กล่าวว่า สถานการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นนี้คลายกับเมื่อคราวไข้หวัดนกระบาด ซึ่งอาจจะทำให้การค้าระหว่างประเทศชะลอตัวลง อีกทั้งยังทำให้ความพยายามในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลหยุดชะงัก หากว่ามีการแพร่ระบาดมากไปกว่านี้ ซึ่งการระบาดครั้งนี้ยังจะทำให้ความต้องการเนื้อหมูลดลงเช่นเดียวกับธัญพืชที่ใช้เป็นอาหารสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นข้าวโพด ถั่วเหลือง และข้าวสาลี
ทั้งนี้ ราคาซื้อขายล่วงข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.อ่อนตัวลงถึง 2.9% แตะ 3.745 ดอลลาร์ต่อบุชเชลในการซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกในตลาด CBOT และเคลื่อนตัวอยู่ที่ 3.755 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 10.11 น.ตามเวลาท้องถิ่นในสิงคโปร์
ราคาร่วงลง 1.1% เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา จากการคาดการณ์เรื่องสภาพอากาศที่อบอุ่นและแห้งแล้งในพื้นที่บางส่วนแถบมิดเวสท์ของสหรัฐซึ่งช่วยให้เกษตรกรเร่งปลูกข้าวโพดได้หลังจากที่ฝนยังไม่ตกลงมา ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับผลผลิตจากธัญพืชในสหรัฐ
สำหรับราคาถั่วเหลืองที่มีการซื้อขายล่วงหน้าและส่งมอบเดือนก.ค.อ่อนตัวลง 3.4% แตะ 9.99 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาที่มีการซื้อขายมากที่สุดร่วงลง 0.7% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ราคาถั่วเหลืองอยู่ที่ 10.645 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นมา