ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดพุ่ง $1.05 หลังตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งแรง

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 30, 2009 07:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรสัญญาน้ำมันดิบหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงความเชื่อมั่นว่าภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจอาจจะทุเลาลง โดยสัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงซื้อเข้าหนุนแม้สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเกินคาดก็ตาม

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 1.05 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 50.97 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 49.12-51.42 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาราคาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 1.24 เซนต์ ปิดที่ 1.3291 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 5.07 เซนต์ ปิดที่ 1.4484 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ ปิดที่ 50.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

ไมค์ เซเรมบ์สกี้ นักวิเคราะห์จาก OptionsXpress Inc กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบแม้กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 24 เม.ย.เพิ่มขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 374.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีพ.ศ.2533 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นเพียง 2.1 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 144.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 4.7 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 212.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 200,000 บาร์เรล

"สต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเกินคาดสะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้ประชาชนและบริษัทเอกชนใช้พลังงานน้อยลง แต่นักลงทุนไม่ให้ความสนใจกับข้อมูลนี้ และกลับเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบหลังจากภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก" เซเรมบ์สกี้

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 168.78 จุด หรือ 2.11% แตะที่ 8,185.73 จุด หลังจากคณะกรรมการเฟดออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมเมื่อคืนนี้ว่า มีสัญญาณบ่งชี้บางอย่างที่บ่งชี้ว่าภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจอาจจะทุเลาลง โดยเฟดระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้นปานกลางตั้งแต่เดือนมี.ค. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาวะตึงตัวในตลาดการเงินเริ่มบรรเทาลงแล้ว นอกจากนี้ เฟดเชื่อว่าตลาดการเงินจะเริ่มมีเสถียรภาพขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลและเฟดร่วมมือกันใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและระบบการคลังภายในประเทศ

การแสดงความคิดเห็นในด้านบวกของเฟดช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก (swine flu) นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกหดตัวลง 6.1% ต่อปี แต่รายงานระบุว่าการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น และสต็อกสินค้าคงคลังลดลง ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกจำเป็นต้องเก็บสต็อกสินค้าเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

นักลงทุนจับตาดูการประชุมโอเปคในวันที่ 28 พ.ค.นี้ หลังจากจายอับดุลเลาะห์ เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปคเปิดเผยว่า โอเปคจะลดปริมาณการผลิตในการประชุมครั้งนี้ หากราคาน้ำมันร่วงลงมากเกินไป

"ผมมั่นใจว่าหากราคาน้ำมันดิบร่วงลงมากเกินไป โอเปคก็อาจตัดสินใจลดปริมาณการผลิตในการประชุมวันที่ 28 พ.ค.นี้ ที่ผ่านมานั้นหลายประเทศที่เป็นสมาชิกกลุ่มโอเปคต้องเลื่อนโครงการขุดเจาะน้ำมันออกไปเนื่องจากราคาร่วงลงอย่างหนัก" เลขาธิการโอเปคกล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่อัลจีเรีย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ