สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 13 เซนต์ หรือ 0.22% ปิดที่ 58.50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 56.78-58.63 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 1.75 เซนต์ หรือ 1.15% ปิดที่ 1.5009 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 2.53 เซนต์ หรือ 1.48% ปิดที่1.6802 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 66 เซนต์ หรือ 1.14% ปิดที่ 57.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
ฟิล ไฟน์ นักวิเคราะห์จากบริษัท อลารอน เทรดดิ้ง คอร์ป กล่าวว่า "สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวตามตลาดหุ้นนิวยอร์กตลอดสัปดาห์ที่แล้ว และเมื่อตลาดหุ้นร่วงลง ราคาน้ำมันก็ปรับตัวลดลงด้วย"
นักลงทุนจับตาดูการประชุมของกลุ่มโอเปคในวันที่ 28 พ.ค.นี้ที่กรุงเวียนนา ขณะที่ทิม อีแวนส์ ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์พลังงานของบริษัทซิตี้ ฟิวเจอร์ส เพอร์สเปคทีฟกล่าวว่า "มีสัญญาณบ่งชี้ว่ากลุ่มโอเปคจะไม่ปรับลดการผลิตในการประชุมทบทวนนโยบายในวันที่ 28 พ.ค.นี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวกดดันราคาน้ำมันร่วงลงเมื่อคืนนี้ด้วย"
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.4%
ส่วนสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 1 พ.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 600,000 บาร์เรล แตะระดับ 375.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล
ขณะเดียวกันภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมัน NYMEX ซบเซาลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนเม.ย.อยู่ที่ระดับ 8.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2526 ส่วนตัวเลขจ้างงานในเดือนเม.ย.ร่วงลง 539, 000 ตำแหน่ง ซึ่งทำสถิติลดลงน้อยที่สุดในรอบ 6 เดือน หลังจากที่เคยทรุดฮวบลง 699,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะดิ่งลง 610,000 ตำแหน่ง