สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เมื่อคืนนี้ เนื่องจากแรงซื้อเก็งกำไรโดยในระหว่างวันสัญญาทะยานขึ้นเหนือระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว และนับตั้งแต่ช่วงต้นปีพ.ศ.2552 ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นไปแล้วเกือบ 40%
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 35 เซนต์ ปิดที่ 58.85 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 60.08 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 1.3 เซนต์ ปิดที่ 1.6672 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลงแตะระดับ 1.51 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ ปิดที่ 58.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทิม อีแวนส์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากบริษัทซิตี้ ฟิวเจอร์ส เพอร์สเปคทีฟ กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรสัญญาน้ำมันดิบเดือนมิ.ย.หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้น โดยยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้นแตะ 2.76 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค.จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 2.61 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสหรัฐจะขาดดุลการค้า 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค.
ขณะที่ ABC News เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นตามคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนี Consumer Comfort Index เพิ่มขึ้นสู่ระดับ -42 จุด ในสัปดาห์ที่สิ้น สุด ณ วันที่ 10 พ.ค.จากระดับ -43 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน
นักลงทุนให้ความสนใจต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนพ.ค.
นักลงทุนจับตาดูการประชุมของกลุ่มโอเปคในวันที่ 28 พ.ค.นี้ที่กรุงเวียนนา หลังจากจายอับดุลเลาะห์ เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปคเปิดเผยว่า โอเปคจะลดปริมาณการผลิตในการประชุมครั้งนี้ หากราคาน้ำมันร่วงลงมากเกินไป และระบุว่าหลายประเทศที่เป็นสมาชิกกลุ่มโอเปคต้องเลื่อนโครงการขุดเจาะน้ำมันออกไปเนื่องจากราคาร่วงลงอย่างหนัก
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.4%
การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานเมื่อคืนนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 3.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว แตะระดับ 370.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการร่วงลงมากเกินคาด ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.0 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 211.1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 143.6 ล้านบาร์เรล