สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงหดตัวลงในปีนี้ ซึ่งจุดปะทุให้เกิดความกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะฉุดดีมานด์พลังงานลดลงด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 99 เซนต์ ปิดที่ 61.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลงสู่ระดับ 1.7997 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 1.17 เซนต์ ปิดที่ 1.5411 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 66 เซนต์ ปิดที่ 59.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจและพากันเทขายสัญญาน้ำมันดิบ หลังจากเฟดประกาศลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐปีนี้จะหดตัวลง 1.3 - 2% ซึ่งเป็นการปรับลดคาดการณ์ที่สูงกว่าก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะหดตัวเพียง 0.5-1.3% และคาดว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 10% จากเดิมที่คาดว่าไว้ที่ 8.8%
อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมัน NYMEX ยังคงได้รับปัจจัยบวกจากข่าว ความไม่สงบในประเทศไนจีเรีย หนึ่งในสมาชิกของกลุ่มโอเปค หลังจากมีรายงานว่ากลุ่มกบฎไนจีเรียและกองกำลังทหารไนจีเรียยิงปะทะกันที่เมืองวาร์รี เมืองท่าขนส่งน้ำมันของไนจีเรีย ซึ่งนักลงทุนมองว่าหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น ก็อาจส่งผลกระทบต่อซัพพลายและหนุนราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นอีก
เหตุก่อการร้ายในไนจีเรียส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น และเคยทำให้บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่หลายแห่งต้องประกาศ ภาวะสุดวิสัย (force majeure)" เนื่องจากไม่สามารถส่งมอบน้ำมันให้กับลูกค้าได้ตามกำหนด ทั้งนี้ ภาวะสุดวิสัยเป็นส่วนหนึ่งที่ระบุในสัญญาซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อช่วยให้คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นอิสระจากข้อบังคับทางกฎหมาย เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาทิ ข้อพิพาทด้านแรงงาน การก่อการร้าย และภัยพิบัติทางธรรมชาติ
เมื่อไม่นานมานี้นักลงทุนแห่เข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบหลังจากมีข่าวว่ากบฏไนจีเรียได้ระเบิดท่อส่งน้ำมันและก๊าซ 2 แห่งในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ และประกาศว่าจะปิดกั้นเส้นทางสัญจรทางน้ำที่สำคัญในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อสกัดกั้นการส่งออกน้ำมันดิบ หลังจากกองกำลังทหารของรัฐบาลไนจีเรียได้โจมตีค่ายของกลุ่มกบฏ
ส่วนในฝั่งสหรัฐนั้น เจ้าหน้าที่ท่าเรือน้ำมันนอกชายฝั่งรัฐหลุยเซียน่า (LOOP) ประกาศว่า ทางท่าเรือได้ระงับการขนถ่ายน้ำมันจากเรือนอกชายฝั่งในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี เนื่องจากมีลมแรงและทะเลมีคลื่นสูง แต่คาดว่าการระงับการขนถ่ายในครั้งนี้จะใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ทางท่าเรือจะยังคงขนถ่ายน้ำมันดิบบนชายฝั่งต่อไปตามปกติ
นักลงทุนยังคงจับตาดูการประชุมโอเปคในวันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ค.นี้ หลังจากนายอับดุลเลาะห์ เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปคแสดงความเห็นว่า โอเปคอาจลดปริมาณการผลิตในการประชุมครั้งนี้ หากราคาน้ำมันร่วงลงมากเกินไป