สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 61 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง รวมถึงสถานการณ์การต่อสู้ระหว่างรัฐบาลและกลุ่มกบฏในไนจีเรีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของแอฟริกา
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค.บวก 62 เซนต์ ปิดที่ 61.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนมิ.ย.ขยับขึ้น 4.11 เซนต์ สู่ระดับ 1.8408 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ขยับขึ้นไม่ถึง 1 เพนนี ปิดที่ 1.538 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ค.บวก 85 เซนต์ ปิดที่ 60.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบเงินยูโร โดยซื้อขายอยู่ที่ระดับ 1.3979 ดอลลาร์ต่อยูโรในช่วงกลางวัน ในขณะเดียวกันก็อ่อนค่าแตะ 94.67 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 99 เยนต่อดอลลาร์เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว
ในขณะเดียวกัน เหตุการณ์ความไม่สงบในไนจีเรียก็ทำให้ประเทศผลิตน้ำมันได้น้อยลงกว่าครึ่งจากความสามารถในการผลิตทั้งหมด
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศโอเปคตัดสินใจเพิ่มการส่งออกน้ำมันราว 200,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงระยะเวลา 4 สัปดาห์ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 6 มิ.ย.