สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงแต่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 61 ดอลลาร์/บาร์เรลท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ในสัปดาห์นี้ รวมถึงมองหาปัจจัยชี้นำใหม่ๆที่สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ในช่วงเที่ยงวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนก.ค.ลดลง 35 เซนต์ แตะระดับ 61.32 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังพุ่ง 62 เซนต์ สู่ระดับ 61.67 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันเริ่มอยู่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองในแง่บวกว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกที่เลวร้ายสิ้นสุดลงแล้ว และเทรดเดอร์จะรอคอยการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจใหม่ๆในสัปดาห์นี้ โดยสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.รวมถึงรายงานยอดขายบ้านมือสองและบ้านใหม่ในเดือนที่ผ่านมา
ขณะที่ในเอเชีย เริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ที่ว่าภาวะตกต่ำในภาคธุรกิจส่งออกมาถึงจุดต่ำสุดที่พร้อมดีดตัวขึ้นแล้ว แม้แนวโน้มจะยังเลือนรางก็ตามที
วิคเตอร์ ชุม นักวิเคราะห์จากเปอร์วิน แอนด์ เกิร์ซ ในสิงคโปร์กล่าวว่า "ราคาน้ำมันที่เคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 60 ดอลลาร์บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มที่จะฟื้นตัวแล้ว แม้จะมีหลักฐานให้เห็นเพียงเล็กน้อย"
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศโอเปคจะประชุมกันที่กรุงเวียนนาในวันพุธนี้เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันซึ่งที่ประชุมอาจลดโควต้าการผลิตลงจากเดิมที่วันละ 4.2 ล้านบาร์เรลตั้งแต่เดือนก.ย.ปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ผู้นำกลุ่มโอเปคต้องการให้ราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรลจากระดับ 35 ดอลลาร์/บาร์เรลในเดือนมี.ค.จะกดดันให้ที่ประชุมกลุ่มโอเปคลดกำลังการผลิตลงอีก