สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 65 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนเมื่อคืนนี้ (28 พ.ค.) หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นแม้ในยามที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) มีมติคงโควต้าการผลิตในการประชุมเมื่อวานนี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.08 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 65.35 63.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.88 เซนต์ ปิดที่ 1.9105 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 3.97 เซนต์ ปิดที่ 1.6014 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.89 ดอลลาร์ ปิดที่ 64.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคึกคักหลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่พ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าแม้เศรษฐกิจสหรัฐยังเผชิญภาวะถดถอย แต่ดีมานด์พลังงานยังคงสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุดเมมโมเรียล เดย์ ซึ่งเป็นประเพณีที่ชาวอเมริกันจากนำยานยนต์ออกไปขับขี่เพื่อพักผ่อนกับครอบครัว
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 22 พ.ค.ร่วงลง 5.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 363.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 700,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 600,000 บาร์เรล แตะระดับ 203.4 ล้านบาร์เรล แต่ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลง 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล สู่ 120.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 3.3% แตะระดับ 85.1% มากกว่าที่วิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.4%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบหลังจากกลุ่มโอเปคตัดสินใจคงระดับการผลิตในการประชุมที่กรุงเวียนนาเมื่อวานนี้ เนื่องจากเชื่อว่าแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นจะช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกให้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยปัจจุบันเพดานการผลิตน้ำมันของโอเปคอยู่ที่ 24.84 ล้านบาร์เรล/วัน
นายอาลี อัล-ไนมี รมว.น้ำมันของซาอุดิอาระเบีย เปิดเผยว่า ที่ประชุมโอเปค ซึ่งผลิตน้ำมันคิดเป็น 40% ของอุปทานน้ำมันดิบทั่วโลก ตกลงที่จะตรึงโควต้าการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมวันนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ที่กลุ่มโอเปค มีมติไม่เปลี่ยนแปลงการผลิต