สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียปรับตัวลดลงอยู่ต่ำกว่าระดับ 68 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยชี้นำใหม่ๆท่ามกลางภาพรวมเศรษฐกิจที่แท้จริง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนก.ค.ปรับตัวลง 49 เซนต์แตะที่ 67.95 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเที่ยงวันนี้ จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาซึ่งลดลง 37 เซนต์ไปอยู่ที่ระดับ 68.44 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังทะยานขึ้นสูงสุดแตะที่ 70.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติยังปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังคงย่ำแย่แม้จะมีสัญญาณบ่งชี้ว่า จุดต่ำสุดของวิกฤตครั้งนี้ผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม ขณะที่ผู้บริโภคขับขี่ยานยนต์กันน้อยลง หรือไม่ก็หันมาใช้ยานยนต์ประหยัดพลังงานมากกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ซึ่งกินน้ำมัน
"ผมมองว่าราคาน้ำมันที่พุ่งสูงในช่วงที่ผ่านมาจะเริ่มทิ้งช่วง" จอห์น วอเทรน นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจาก Purvin & Gertz ในสิงคโปร์กล่าว "สต็อกน้ำมันดิบยังคงมีปริมาณสูงขึ้นและการปรับลดการผลิตของโอเปคจะไม่เพียงพอที่จะชดเชยอุปทานน้ำมันที่มีอยู่เป็นจำนวนมากได้ เศรษฐกิจหลักยังคงอ่อนแอขณะที่อุปสงค์ยังคงตกต่ำ และผมคาดว่าราคาน้ำมันจะลดลงในช่วงไตรมาส 3 และจะเคลื่อนไหวในอัตราเฉลี่ยที่ 50-55 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้"
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าราคาน้ำมันจะทะยานขึ้นได้อย่างรวดเร็วในปีนี้ โดยโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นแตะที่ระดับ 85 ดอลลาร์ในช่วงสิ้นปี