สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดดิ่งลงเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เนื่องจากปัจจัยเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ หลังจากที่รมว.คลังรัสเซียออกมาแสดงความเห็นเชิงสนับสนุนว่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะยังคงสถานะเป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลกต่อไป โดยดอลลาร์ที่แข็งค่าทำให้โภคภัณฑ์ราคาแพงขึ้น ซึ่งลดความน่าดึงดูดใจให้นักลงทุนเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 1.42 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 70.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากร่วงลงต่ำกว่าระดับ 70 ดอลลาร์ในระหว่างวัน
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินเดือนก.ค.ปิดเกือบทรงตัวที่ 2.053 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนก.ค.ปิดที่ 1.8156 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ลดลง 2.2 เซนต์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE เดือนก.ค. ซึ่งหมดอายุลงในวันจันทร์ ร่วงลง 1.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ทิศทางราคาเริ่มกลับตรงกันข้ามในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสัญญาน้ำมันดิบลดลง 64 เซนต์ ปิดที่ 72.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันศุกร์ หลังจากร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 70.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากเริ่มมีความกังวลว่าการฟื้นตัวดังกล่าวจะยั่งยืนถาวรหรือไม่
ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์ที่ดีดตัวขึ้นก็ทำให้เทรดเดอร์หมดความสนใจที่จะเข้าซื้อสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อเก็งกำไร เนื่องจากการซื้อขายโภคภัณฑ์ทำในรูปสกุลเงินดอลลาร์ ดังนั้นเมื่อเงินดอลลาร์แข็งค่าก็จะทำให้โภคภัณฑ์มีราคาสูงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ
สำหรับปัจจัยที่หนุนให้เงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ได้แก่การที่รัฐมนตรีคลังรัสเซีย อเล็กเซ คุดริน ได้ออกมาแสดงความเห็นในที่ประชุมจี8 ที่อิตาลี เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ว่า เงินดอลลาร์จะยังคงมีสถานะเป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลกต่อไป
รมว.คลังรัสเซียกล่าวว่า ณ ขณะนี้ เงินดอลลาร์ยังอยู่ในสถานีที่ดี และสถานะสกุลเงินสำรองของโลกจะยังไม่เปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่ผู้นำกลุ่ม BRIC ซึ่งประกอบด้วยรัสเซีย จีน อินเดีย และบราซิล จะประชุมร่วมกันในวันนี้ที่เมืองเยกาเตรินเบิร์ก ประเทศรัสเซีย
การแสดงความเห็นของรมว.คลังรัสเซียขัดแย้งกับช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งนายดมิทรี เมดเวเดฟ ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้เคยกล่าวแสดงความไม่มั่นใจว่าสกุลเงินดอลลาร์จะยังคงเป็นสกุลเงินหลักของโลกได้ต่อไปในอนาคตหรือไม่ โดยรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่ถือครองทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมากเป็นอันดับ 3 ของโลก เรียกร้องให้ทั่วโลกลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์ และเสนอแนะว่าหยวนกับรูเบิลอาจกลายเป็นสกุลเงินสำรองในอนาคต
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังอ่อนตัวลงหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลการผลิตที่น่าผิดหวังซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของนิวยอร์กหดตัวในอัตราที่รวดเร็วขึ้น โดยวานนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)สาขานิวยอร์กได้เปิดเผยผลสำรวจดัชนีการผลิตเอ็มไพร์สเตทประจำเดือนมิ.ย.ร่วงลง 5 จุด สู่ระดับลบ 9.4 ซึ่งแย่กว่าคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่มองว่าน่าจะทรงตัว และส่งผลให้นักลงทุนส่งคำสั่งขายหุ้นเนื่องจากข้อมูลดังกล่าวได้ทำลายความหวังที่ว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็ว
จิม ริทเทอร์บุสช์ ประธานบริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงาน ริทเทอร์บุสช์ แอนด์ แอสโซสิเอทส์ กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงตามหุ้นและเงินดอลลาร์ที่ดีดตัวขึ้น "ตราบใดที่ดอลลาร์ยังแข็งค่า น้ำมันก็จะได้รับแรงกดดัน และการอ่อนตัวของหุ้นก็ยิ่งกระตุ้นให้เกิดแรงเทขาย"