กระทรวงเกษตรอินโดนีเซียยืนยันในวันนี้ว่า อินโดนีเซียติดอันดับผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่อันดับ 4 ของโลกในปีนี้ แม้ขนาดของพื้นที่เพาะปลูกกาแฟในอินโดนีเซียอยู่ที่อันดับ 2 รองจากบราซิลก็ตาม
"น่าเสียดายที่เราเป็นรองบราซิล เวียดนาม และโคลัมเบียในเรื่องการส่งออกกาแฟ ทั้งที่ขนาดพื้นที่เพาะปลูกของเรามาเป็นอันดับ 2 รองจากบราซิล อินโดนีเซียมีพื้นที่เพาะปลูกกาแฟทั้งสิ้น 1.3 ล้านเฮคเตอร์ แต่ผลิตเมล็ดกาแฟได้เพียง 689,000 ตันในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าเวียดนามซึ่งเป็นน้องใหม่ในอุตสาหกรรมกาแฟอยู่มาก" นายอาห์หมัด มันกาบารานี ผู้อำนวยการสำนักงานการเพาะปลูกพืชไร่ ในสังกัดกระทรวงเกษตรของอินโดนีเซียกล่าว
นายมันกาบานีกล่าวว่า "96% ของพื้นที่เพาะปลูกกาแฟในอินโดนีเซียดำเนินการโดยเกษตรกร ขณะที่ 2% ดำเนินการโดยภาครัฐ และอีก 2% ดำเนินการโดยภาคเอกชน ปัจจัยที่ทำให้พื้นที่เพาะปลูกของเกษตรลดน้อยลงมาจากวิธีการแผ้วถางป่าแบบเดิมๆ พวกเขาไม่ค่อยทำตามคำแนะนำจากภาครัฐบาลในเรื่องการเพิ่มผลผลิต ซึ่งผลที่ตามมาก็คือเราได้กาแฟคุณภาพต่ำ และส่งผลกระทบอย่างมากต่อการส่งออกกาแฟของเรา"
"ประสิทธิภาพด้านการผลิตกาแฟของอินโดนีเซียยังต่ำมาก เราสามารถผลิตได้ 700 กิโลกรัม/เฮคเตอร์ต่อปี หรือคิดเป็นร้อยละ 60 ประสิทธิภาพด้านการผลิตอันพึงได้ ส่วนปัญหาอื่นๆก็น่าจะเกิดจากราคาที่ผันผวน และสำหรับประชาชนกว่า 6 ล้านคนต้องพึ่งพาสินค้าทางการเกษตร ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับพวกเขา" นายมันกาบานีกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายมันกาบานีเชื่อว่าอุตสาหกรรมกาแฟของอินโดนีเซียยังมีโอกาสที่จะขยายตัว เพราะอินโดนีเซียมีพื้นที่เพาะปลูกกาแฟอยู่มาก นอกจากนี้ ประชากรอินโดนีเซียที่มีอยู่เป็นจำนวนมากจะช่วยทำให้อัตราการบริโภคกาแฟเพิ่มขึ้นด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน