สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป หลังจากสหรัฐและยุโรปเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายสัญญาน้ำมันดิบก่อนที่กระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ในวันพุธ
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 1.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 62.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ในวันที่ 26 พ.ค.เป็นต้นมา หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 62.35-64.91 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 2.59 เซนต์ แตะที่ 1.6007 ดอลลาร์/แกลลอน ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.ขยับลง 0.76 เซนต์ แตะที่ 1.7328 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 82 เซนต์ ปิดที่ 63.23 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 62.69-64.89 ดอลลาร์
นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่องและส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบดิ่งลงติดต่อกันยาวนานถึง 5 วันทำการ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfar payroll) ร่วงลงเกินคาด 467,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี และบ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังคงเผชิญภาวะตึงตัวเพราะถูกกระทบจากเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง
ตัวเลขจ้างงานทำสถิติร่วงลงเหนือความคาดหมาย โดยก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิ.ย.จะร่วงลง 365,000 ตำแหน่ง หลังจากดิ่งลง 345,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ขณะที่อัตราว่างงานมีแนวโน้มไต่ขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ 9.6%
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่าอัตราว่างงานใน 16 ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรปรับตัวสูงขึ้นแตะ 9.5% ในเดือนพ.ค. จากระดับ 9.3% ในเดือนเม.ย. ถือเป็นสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2542 โดยตัวเลขคนตกงานซึ่งเพิ่มขึ้น 273,000 จากเดือนเม.ย.มาอยู่ที่ 15 ล้านคนในเดือนพ.ค. ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจจะต้องใช้เวลานาน
ทอม โคลซา นักวิเคราะห์จาก Oil Price Information Service กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า นักลงทุนยังคงเทขายสัญญาน้ำมันดิบเนื่องจากความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนแอเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
รายงานระบุว่า หลังจากตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการเมื่อคืนนี้แล้ว การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 348.3 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 3 ก.ค. ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นพุ่งขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรล แตะที่ 158 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 767,000 บาร์เรล แตะที่ 212.4 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 2.0 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล