ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดบวก 27 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันดิบร่วงเกินคาด

ข่าวต่างประเทศ Friday July 10, 2009 06:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นวันแรกในรอบกว่า 1 สัปดาห์ หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาด อย่างไรก็ตาม ราคาสัญญายังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรลเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับตัวเลขจ้างงานของสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ ปิดที่ 60.41 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 60.45-59.50 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลงสู่ระดับ 1.5344 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.ดีดขึ้น 3.05 เซนต์ ปิดที่ 1.6638 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ ปิดที่ 61.10 ดอลลาร์/แกลลอน

คลาแรง ชู นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากจากบริษัท Hudson Capital Energy กล่าวว่า สัญญาน้ำมันดิบเดือนส.ค.ได้รับแรงแรงซื้อส่งเข้าหนุนหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ก.ค.ร่วงลง 2.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 347.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล และสะท้อนให้เห็นว่าแม้เศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะถดถอย แต่ดีมานด์น้ำมันดิบยังคงเพิ่มขึ้น

"แต่แรงบวกในตลาดถูกสกัดลงเมื่อนักลงทุนเริ่มเทน้ำหนักไปที่ตัวเลขว่างงานทั้งในสหรัฐและยุโรป รวมทั้งสต็อกน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้นเหนือความคาดหมาย เพราะน้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิงหลักของผู้บริโภคสหรัฐ ขณะที่ตัวเลขว่างงานยังคงทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายในสิ่งไม่จำเป็น" คลาแรง ชู กล่าว

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐร่วงลงเกินคาด 467,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.จะร่วงลง 365,000 ตำแหน่ง

ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า อัตราว่างงานใน 16 ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรปรับตัวสูงขึ้นแตะ 9.5% ในเดือนพ.ค. จากระดับ 9.3% ในเดือนเม.ย. ถือเป็นสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2542 โดยตัวเลขคนตกงานซึ่งเพิ่มขึ้น 273,000 จากเดือนเม.ย.มาอยู่ที่ 15 ล้านคนในเดือนพ.ค. ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจจะต้องใช้เวลานาน

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดากรณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง 1.4% ในปีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ว่าจะหดตัว 1.3% อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 2.5% ในปีหน้า เพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 1.9%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ