ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดร่วง 52 เซนต์ หลังนลท.วิตกผลประกอบการภาคเอกชน

ข่าวต่างประเทศ Saturday July 11, 2009 08:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) หลังนักลงทุนทวีความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและผลประกอบการไตรมาส 2 ของภาคเอกชน

สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 52 เซนต์ ปิดที่ 59.89 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังร่วงแตะระดับต่ำสุดที่ 58.72 ดอลลาร์/บาร์เรล ในระหว่างวัน

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลงไม่ถึง 1 เพนนี สู่ระดับ 1.5335 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค. ลดลงราว 1 เพนนี ปิดที่ 1.6505 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วง 58 เซนต์ ปิดที่ 60.52 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) คาดการณ์ว่าอุปสงค์พลังงานจะลดลง 2.9% ในปีนี้ แต่เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาที่ฟื้นตัวเร็วจะช่วยบรรเทาความรุนแรงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในโลกตะวันตกและญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะทำให้อุปสงค์น้ำมันดีดตัวขึ้นราว 1.7% ในปีหน้า

ผลประกอบการของหลายบริษัทที่กำลังจะได้รับการเปิดเผยในหลายสัปดาห์ต่อจากนี้ จะเป็นตัวบ่งชี้ได้อย่างดีว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกจะเป็นเช่นไร และอุปสงค์น้ำมันจะลดลงอีกหรือไม่

"ปัจจัยที่สำคัญสุดคืออุปสงค์น้ำมัน" คริสตอฟเฟอร์ มอลท์เก-เลธ หัวหน้าฝ่ายเทรดดิ้งจากบริษัท แซ็กโซ แคปิตอล มาร์เก็ตส์ กล่าว "ผลประกอบการไตรมาส 2 ของภาคเอกชนมีอิทธิพลต่อตลาดน้ำมันมาก หากผลประกอบการออกมาน่าผิดหวัง ราคาน้ำมันก็จะลดลงอีก"

อัลโค อิงค์ บริษัทผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ ออกตัวด้วยการเผยตัวเลขขาดทุนที่น้อยเกินคาด และต่อจากนี้ไปจะมีการเผยผลประกอบการของบริษัทใหญ่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น คอลเกต ปาล์มโอลีฟ, เป๊ปซี่โค และ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน

"โดยปกติสินค้าของบริษัทเหล่านี้เป็นที่ต้องการทั่วโลก" มอลท์เก-เลธ กล่าว "ดังนั้นผลประกอบการของบริษัทจึงมีอิทธิพลต่อแนวโน้มราคาน้ำมันในระยะใกล้อย่างมาก" โดยหากยอดขายสินค้าในครัวเรือนเหล่านี้ลดลงก็มีแนวโน้มว่าราคาน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินจะลดลงตามไปด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ