สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (15 ก.ค.) โดยสัญญาทะยานขึ้นเหนือระดับ 61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ร่วงลงเกินความคาดหมาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่งแม้เศรษฐกิจอ่อนแอก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจ
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 2.02 ดอลลาร์ หรือ 3.39% ปิดที่ 61.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 59.65-62.00 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 7.02 เซนต์ หรือ 4.64 % ปิดที่ 1.5821 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 6.15 เซนต์ ปิดที่ 1.7081 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 2.23 ดอลลาร์ แตะที่ 63.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 61.33-63.83 ดอลลาร์ โดยสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์เดือนส.ค.จะครบกำหนดส่งมอบในวันพฤหัสบดีนี้
ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากบริษัท อลารอน เทรดดิ้ง กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า นักลงทุนทุ่มซื้อเก็งกำไรสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนาแน่น หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ก.ค.ลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 344.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 1.6 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล แตะระดับ 159.3 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล แตะที่ 214.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.1% แตะที่ 87.9%
ไฟนน์กล่าวว่า สต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเหนือความคาดหมายสะท้อนให้เห็นว่าดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่งแม้เศรษฐกิจอ่อนแอก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่เฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความมั่นในในทิศทางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยเฟดเชื่อว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 1-1.5% น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัว 1.3-2% อย่างไรก็ตาม เฟดคาดว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 0.7% มากกว่าที่นักวิเคราะหืคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้น ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.2% ใน เดือนมิ.ย. มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1%