สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงใกล้ระดับ 65 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสถาบันปิโตรเลีมแห่งอเมริกาเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์ผู้บริโภคในประเทศยังคงซบเซา
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ในช่วงเที่ยวของวันนี้ตามเวลาสิงคโปร์ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 53 เซนต์มาอยู่ที่ 65.08 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 74 เซนต์ปิดที่ระดับ 64.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกาเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินสูงขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์จากโพลล์สำรวจของแพลตต์ ซึ่งเป็นหน่วยงานข้อมูลทางพลังงานของแมคโกรว-ฮิลล์คาดว่า สต็อกน้ำมันจะลดลง 2.0 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยข้อมูลน้ำมันสำรองจากสำนักข่าวสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐที่จะเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งจะเป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่แสดงถึงภาวะอุปสงค์น้ำมัน
ขณะเดียวกัน ในวันนี้นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เศรษฐกิจในปีนี้จะอยู่ในช่วงของการฟื้นแต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ขณะที่อัตราว่างงานก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย
คลาเรนซ์ ชู นักวิเคราะห์จากฮัดสัน แคปิตอล อีเนอร์จีย์ในสิงคโปร์ กล่าวว่า "การเปิดเผยผลกำไรที่สดใสถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดี แต่เรายังต้องมองถึงภาพรวมของเศรษฐกิจมหภาคในวงกว้าง โดยเฉพาะอัตราว่างงานที่พุ่งสูงซึ่งยังคงเป็นปัญหาต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ"