สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ขยับลงต่ำกว่าระดับ 67 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเที่ยงวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัท ไมโครซอฟท์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงส่งคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นระยะๆ เพราะเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากยอดขายบ้านมือสองปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน
ในช่วงเที่ยงตามเวลาสิงคโปร์ในวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนก.ย.ลดลง 31 เซนต์ แตะที่ 66.85 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับปิดที่ตลาดน้ำมันนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 67.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
เจอราร์ด ริกบี นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจาก Fuel First Consulting กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 3.6% แตะที่ 4.89 ล้านหลังต่อปี จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 4.72 ล้านยูนิตต่อปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 4.84 ล้านหลัง
ทั้งนี้ ยอดขายบ้านเดือนมิ.ย.ของสหรัฐทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เพราะได้แรงหนุนจากมาตรการช่วยเหลือด้านภาษี ดอกเบี้ยเงินกู้ระดับต่ำ และราคาบ้านที่ปรับตัวลดลง
"นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจะทำให้ดีมานด์พลังงานเพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงในช่วงเที่ยงเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาทะยานขึ้นไปยืนเหนือระดับ 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และหลังจากบริษัทหลายแห่งรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง รวมถึงไมโครซอฟท์" ริกบีกล่าว
ไมโครซอฟท์ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตซอฟท์แวร์รายใหญ่อันดับหนึ่งของโลก เปิดเผยว่า ผลกำไรไตรมาสสองร่วงลง 29% และมียอดขายต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากดีมานด์ระบบปฏิบัติการ Windows และซอฟท์แวร์ Office ยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นไมโครซอฟท์ดิ่งลง 8.8%