คอมเมิร์ซแบงค์ เอจี คาดว่า ราคากาแฟดีดตัวจากปรากฎการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเอล นินโญ่ ซึ่งอาจจะทำให้ผลผลิตกาแฟในเวียดนามและอินโดนีเซียลดลง รวมทั้งคลังกาแฟของบราซิลด้วยเช่นกัน
ข้อมูลจากบลูมเบิร์กและอินเตอร์คอนติเนนตัลเอ็กซ์เชงจ์ อิงค์ บ่งชี้ว่า ราคากาแฟโรบัสต้าปรับตัวขึ้นมาแล้วประมาณ 15% นับตั้งแต่ที่ราคาร่วงลงปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบอย่างน้อย 18 เดือนเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนราคากาแฟอาราบิก้าก็ปรับตัวขึ้นมาประมาณ 9% จากระดับปิดต่ำสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อวันที่ 10 ก.ค. เนื่องจากสำรองอ่อนตัวลง
ยูเจน ไวน์เบิร์ก นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสของคอมเมิร์ซแบงค์ กล่าวว่า สำรองกาแฟของ ICE อ่อนตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี และบ่งชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง อุปทานกาแฟในเวียดนามและอินโดนีเซีย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของการผลิตกาแฟโรบัสต้าทั่วโลกนั้น อาจจะได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอล นินโญ่ ที่เกิดขึ้นจากมวลอากาศร้อนแห้งไม่มีความชื้น ส่งผลให้ภาวะอุณหภูมิแปรผัน อุณหภูมิสูงเพิ่ม
นักวิเคราะห์กล่าวว่า สำรองกาแฟของบราซิลซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟอาราบิก้าชั้นนำของโลก จะช่วยกระตุ้นราคาให้ปรับตัวสูงขึ้น รัฐบาลเองก็ซื้อกาแฟขนาดถุง 60 กิโลกรัมประมาณ 3 ล้านถุงจากกลุ่มผู้ปลูกกาแฟในประเทศไปแล้วในเดือนก.ค. เพื่อที่จะผลักดันราคาให้ปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าราคาจะขยับขึ้นมาเมื่อเร็วๆนี้ แต่ราคาก็ยังเรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป และคาดว่า ในระยะกลางและระยะยาว ราคากาแฟจะปนรับตัวสูงขึ้น ขณะที่กลุ่มนักเก็งกำไรคาดว่าผลผลิตกาแฟจำนวนมหาศาลจะทำให้ราคากาแฟตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก
ลอง วาน ตู ประธานสมาคมโกโก้และกาแฟเวียดนาม กล่าวว่า ราคากาแฟอาจจะปรับตัวสูงขึ้นเมื่อพิจารณาบนพื้นฐานของการคาดการณ์และการสำรองกาแฟของรัฐบาลในประเทศผู้ผลิตชั้นนำต่างๆ