ยอดผลิตเหล็กดิบในจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก ทะยาน 13% ในเดือนก.ค.แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 5.86 แสนล้านดอลลาร์ ที่ทำให้ผู้สร้างบ้านและผู้ผลิตรถยนต์มีความต้องการเหล็กมากขึ้น
โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานว่า ยอดผลิตเหล็กดิบทะยานแตะ 50.7 ล้านเมตริกตันในเดือนก.ค. ซึ่งถือว่าทำระดับสูงสุดระดับใหม่เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันแล้ว
เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เปิดเผยว่า ราคาเหล็กในจีนปรับตัวสูงขึ้นถึง 30% นับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา จนผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของประเทศอย่างเป๋าสตีลไม่สามารถตอบสนองอุปสงค์ที่พุ่งสูงได้ทัน ในขณะเดียวกันอุตสาหกรรมเหล็กจีนที่ฟื้นตัวก็ทำให้จีนไม่สามารถขอลดราคาแร่เหล็กที่ซื้อจากริโอ ทินโต กรุ๊ป, วาเล เอสเอ และ บีเอชพี บิลลิตัน ได้ และทำให้ต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศจีนรายงานว่า ยอดผลิตเหล็กปรับตัวสูงขึ้น 2.9% แตะ 317 ล้านตันในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และผลผลิตเหล็กอาจพุ่งเกิน 500 ล้านตันในปีนี้ มากกว่าที่เคยคาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 460 ล้านตัน บลูมเบิร์กรายงาน